ชาวเชียงใหม่ ซัดรัฐบาลเมินเฉยวิกฤต PM 2.5 มัวหาเสียง รู้สาเหตุ แต่ไม่กล้าทำอะไร

ชาวเชียงใหม่ ซัดรัฐบาลเฉยวิกฤต PM 2.5 มัวหาเสียง รู้สาเหตุ แต่ไม่กล้าทำอะไร ปล่อยให้ภาระตกอยู่กับประชาชน ชี้เรื่องนี้เกินกำลังผู้ว่าฯ

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณลานประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ปธ.คณะกรรมการอำนวยการสภาลมหายใจเชียงใหม่ พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องถึงรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษอากาศจังหวัดอย่างเร่งด่วน

หลังจากสถานการณ์ PM 2.5 รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา ผลการตรวจวัดค่ามลพิษอากาศของเชียงใหม่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปร่วมกันเขียนข้อความสะท้อนปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น ตลอดจนข้อเสนอเรียกร้อง พร้อมมีการแจกหน้ากากอนามัยชนิดที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 และมลพิษอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมและประชาชนทั่วไป

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนเชียงใหม่รู้สึกอัดอั้นและหมดความอดทนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ที่รัฐบาลนิ่งเฉย ปล่อยให้ประชาชนดูแลตัวเอง แทนที่รัฐบาลจะทำหน้าที่ดังกล่าว ในการสนับสนุนหน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ การรักษาพยาบาล แต่กลับปล่อยให้ภาระดังกล่าวตกอยู่กับประชาชน

ขณะเดียวกันต้องมีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมในการลด PM 2.5 ด้วย ซึ่งสาเหตุชัดเจนว่ามาจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับไม่กล้าดำเนินการใด ๆ

ปัจจัยสำคัญมาจากฝุ่นควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีต้นตอมาจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจึงเกินกำลังของผู้ว่าฯเชียงใหม่ แต่ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล จึงอยากเรียกร้องถึงรัฐบาลปัจจุบันว่า อยากให้ช่วยดูแลแก้ไขปัญหาความทุกข์ประชาชนด้วย ไม่ใช่มัวห่วงแต่เรื่องอื่น