เร่งแก้ “ก๊าซแอมโมเนีย”รง.แปรรูปปลาแซลม่อนแช่แข็งรั่วเจ็บ 10 คน อพยพคนงานไปอยู่ที่วัดชั่วคราว 84 ราย

เร่งแก้ “ก๊าซแอมโมเนีย”รง.แปรรูปปลาแซลม่อนแช่แข็งรั่วเจ็บ 10 คน อพยพคนงานไปอยู่ที่วัดชั่วคราว  84  ราย





ad1

การแก้ไขปัญหาก๊าซแอมโมเนียรั่วโรงงานแปรรูปปลาแซลม่อนแช่แข็ง บริษัท นิสซุย ประเทศไทย จำกัด หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลาวันที่ 22.00 น.เมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม 2566  ทำให้ต้องอพยพคนงานที่พักอยู่ในโรงงานทั้งหญิงและชายนับร้อยคนออกมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา และบางส่วนมีอาการอาเจียร เวียนศีรษะ และมีบางรายอาการรุนแรงถึงขึ้นหมดสติต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ก๊าซแอมโมเนียที่รั่วจากท่อที่อยู่บนเพดานห้องเย็นได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปปิดวาวแอมโมเนีย ที่หล่อท่อในโรงงานตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่ก็ยังมีสารตกค้างอยู่ในระบบของท่อซึ่งอยู่บนฟ้าเพดานของห้องเย็น ต้องใช้สเปรย์น้ำพ้นลงมาเพื่อลดความเข้มข้นของแอมโมเนียลงและยังมีกลิ่นแอมโมเนีย กระจายอยู่ทั้งในโรงงานและรอบ ๆ โรงงาน และโรงงานต้องหยุด 1 วัน

ในส่วนของคนงานที่เป็นแรงงานต่างด้าวที่พักอยู่ในโรงงานจำนวน 84 คน จำเป็นต้องอพยพไปอยู่ที่วัดแม่เตยชั่วคราว ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ เข้าไปสังเกตุอาการณ์ที่อาจจะได้รับผลข้างเคียงจากการสูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไป

ด้านเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปภ.สงขลา อุตสาหกรรม จ.สงขลา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 12 สงขลา อุตสาหกรรม จ.สงขลา กรมโรงงานอุตสาหกรรม ฝ่ายปกครอง อ.หาดใหญ่ อบต.ท่าข้าม และตำรวจ สภ.คอหงส์ ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่ศูนย์แพทย์ชุมชนสามตำบลของ อ.หาดใหญ่ และประชุมวางแผนการการแก้ปัญหา ทั้งการเข้าตรวจสอบตรวจวัดค่าสารแอมโมเนียภายในโรงงานสภาพอากาศโดยรอบ และเก็บตัวอย่างสารตกค้างในน้ำและได้รับการยืนยันจากวิศวกรประจำโรงงานแจ้งว่าได้ปิดระบบควบคุมการรั่วของแอมโมเนียแล้ว

โดยในส่วนของภายในโรงงานในวันนี้ ได้มีการจัดรถน้ำของ ปภ.12 จำนวน 2 คัน เข้าฉีดสเปรย์น้ำตลอดเวลาเพื่อลดความเข้มข้นของแอมโมเนีย จัดโรบอทหรือหุ่นยนต์ เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จัดเจ้าหน้าที่ 3 นาย ใส่ชุดนิรภัยเข้าตรวจสอบห้องเกิดเหตุ และในวันพรุ่งนี้ทุกฝ่าย จะเข้าตรวจสอบและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เบื้องต้น มีจำนวน 9 ราย ซึ่งมีอาการคลื่นใส้อาเจียนแต่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว โดยนำส่งโรงพยาบาล ม.อ. 4 ราย และโรงพยาบาลหาดใหญ่ 5 ราย

นายจิระพจน์ ชุมภูประสิทธิ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ใช้รถน้ำของ ปภ.12  มาฉีดน้ำเพื่อลดความเข้มข้นของสารแอมโมเนียให้เจือจางลงและส่งเจ้าหน้าที่สวมชุด SCPA เข้าไปตรวจวัดความเข้มข้นสารเคมี และเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านได้ส่งเจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรม จ.สงขลา และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 12 จ.สงขลา เข้าไปตรวจวัดคุณภาพอากาศและตรวจน้ำว่ามีอันตรายต่อสัตว์หรือไม่

ทั้งนี้ ในส่วนของความยากและความอันตรายของสารแอมโมเนีย ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นเพราะจะสามารถทำลายระบบทางเดินหายใจและระคายเคืองผิวหนัง และขึ้นอยู่กับกระแสลมซึ่งภายบริเวณโรงงานกระแสลมนิ่ง หลังจากที่ฉีดสเปรย์น้ำแล้วก็จะตรวจวัดความเจือจางอีกครั้งจนกว่าจะอยู่ในระดับที่ปลอดภัย 

ด้านนายรัตน์ นริศ สุวรรณรัตน์ สาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรงงานและจุดอพยพ มีผู้ป่วยจำนวน 10 คน ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 7 คน และโรงพยาบาล ม.อ.3 คน ซึ่งทุกคนปลอดภัยแล้ว และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงาน

“ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้ชาวบ้านเว้นระยะห่างจากโรงงานออกไปก่อนหรืออยู่แต่ภายในบ้านและสวมหน้ากากอนามัย”

ขณะที่นายสินธพ อินทรัตน์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  เจ้าของพื้นที่  เปิดเผยว่า สำหรับการแก้ปัญหาแอมโมเนีย ที่ตกค้างในโรงงานได้ประสานรถน้ำของ ปภ.เขต12 และ อบต.ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อมาฉีดน้ำทำเป็นม่านน้ำเพื่อลดความเข้มข้นของสารแอมโมเนียลง และให้ไหลระบายลงบ่อบำบัดน้ำเสีย และหากเป็นไปได้ก็ขอให้ชาวบ้านที่อยู่ในรัศมีรอบโรงงาน 200 เมตร ออกไปก่อน และคาดว่าภายในวันนี้จะสามารถแก้ปัญหาให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ในส่วนของผู้แรงงานที่ต้องอพยพไปอยู่ที่วัดแม่เตย ก็มีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลหาดใหญ่ ไปช่วยดูแลและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด.