ตำรวจปากเกร็ดสั่งปิดคลินิกเสริมหน้าสาวใหญ่ช็อคดับ-ญาติเรียกเงินเยียวยา 10 ล้าน

ตำรวจปากเกร็ดสั่งปิดคลินิกเสริมหน้าสาวใหญ่ช็อคดับ-ญาติเรียกเงินเยียวยา 10 ล้าน





ad1

นนทบุรี-ญาติสาวใหญ่วัย 37 บินจากบาห์เรนมาเสริมหน้าอกคลินิกย่านปากเกร็ดผ่าน 6 ชม.เสียชีวิตปริศนา เรียกเยียวยา 10 ล้าน ทางคลินิก และนายแพทย์ ก็ได้มอบเงินให้ 100,000 บาท ในเบื้องต้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายงานศพไปก่อน

กรณี น.ส.กนกวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศบาห์เรน เพื่อเข้ารับการศัลยกรรมหน้าอก ตามนัดที่คลินิกแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงอย่างปริศนา หลังศัลยกรรมหน้าอกเพียง 6 ชั่วโมง ซึ่งเบื้องต้น สบส.-ตร.ปากเกร็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบไม่มีใบอนุญาตรับรองผ่าตัด จึงได้มีคำสั่งปิด

ล่าสุด ที่สภ.วังน้อย นางสาวจตุพร หาหอม น้องสาวผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยยังไม่มีการแจ้งความ มีเพียงลงบันทึกประจำวัน เนื่องจากมีตัวแทนของคลินิก ที่ศัลยกรรมหน้าอกดังกล่าว เดินทางมาที่ สภ.วังน้อย พร้อมกับทนาย และตัวแทนนายแพทย์ที่ผ่าตัด ได้มาเจรจาเรื่องการช่วยเหลือ

ขณะพ่อของผู้เสียชีวิต ได้มาร่วมพูดคุยด้วย ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยได้ผลสรุปว่า เบื้องต้นทางคลินิกที่ศัลยกรรม ได้มีการชดเชยค่าทำงานศพให้ก่อน 100,000 บาท ส่วนในความเสียหายต่างๆ ทางผู้เสียหาย หรือญาติๆของผู้เสีย ซึ่งเป็นญาติเรียกอีก 10 ล้าน เนื่องจากลูกสาวของตนเองนั้น เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก ในการส่งเสียให้กับครอบครัว ซึ่งอยู่เมืองนอกประเทศบาห์เรน และทำอาชีพหมอนวดแผนโบราณ ซึ่งมีรายได้ตกเดือนละประมาณ 40,000 บาท

และได้เสียชีวิตอายุเพียง 37 ปีเท่านั้น โดยมีการคำนวนรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น จนถึงอายุ 60 ปี และยังมีการคำนวณตัวเลขที่ยังเหลือหลังอายุ 60 ปี ทั้งในการทำไร่ ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 13 ล้านบาท แต่ทางญาติเรียกแค่ 10 ล้านบาท เพื่อให้เป็นการเยียวยาในการชดใช้ในเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ญาติของผู้เสียหาย บอกว่า ไม่อยากได้เงินดังกล่าว แต่เป็นหน้าที่ของทางคลินิก ที่จะต้องดำเนินการรับผิดชอบ โดยจะมีการพูดคุย และตกลงกันอีกครั้งที่ สภ.ปากเกร็ด และจะมีการนัดกันอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ส่วนในเรื่องการเยียวยาผู้เสียชีวิต ทางตัวแทนคลินิก และทางบิดาของผู้เสียชีวิต ก็ยินดีที่จะร่วมดำเนินการ โดยจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด แต่ขณะนี้สามารถตกลงกันได้ในช่วงแรกแล้ว แต่ต้องรอการคุยกันอีกครั้งกับทางเจ้าของคลินิกว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป