“อุ๊งอิ๊ง”อ้อนชาวปทุมธานี “ขันอาสา”ปราบยาเสพติด เปลี่ยน “ผู้เสพเป็นผู้ป่วย”

“อุ๊งอิ๊ง”อ้อนชาวปทุมธานี “ขันอาสา”ปราบยาเสพติด เปลี่ยน “ผู้เสพเป็นผู้ป่วย”





ad1

ปทุมธานี-‘แพทองธาร’ ประกาศลั่นเมืองปทุม อาสาปราบยาเสพติดด้วย 3 ป. ‘ปราบผู้ขาย - เปิดเวทีพูดคุยประเทศเพื่อนบ้าน - เปลี่ยน ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ‘ชลน่าน’ ยันเวลานี้ต้องโหวตเชิงยุทธศาสตร์  ให้เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์จัดตั้งรัฐบาล

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย ‘ปักธง คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อคนปทุมธานี’ ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส รังสิต จ.ปทุมธานี นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออกและแขวงทรายกองดินใต้) พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย  พร้อมด้วยแกนนำพรรค ได้แก่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี  พรรคเพื่อไทย ได้แก่ เขต 1 นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล, เขต 2 นายศุภชัย นพขำ, เขต 3 นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ, เขต 4 นายสุทิน นพขำ, เขต 5 นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์, เขต 6 นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ และเขต 7 นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนเข้าร่วมเวทีการปราศรัยกว่า 5,000  คน

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวขอแรงใจจากพี่น้องประชาชน ร่วมกัน ‘แลนด์สไลด์’ หรือโหวตเชิงยุทธศาสตร์ เลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลายให้ได้เกิน 310 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จและมีเสียงเกิน ส.ว. 250 คน ย้ำว่าแลนด์สไลด์เท่านั้นที่จะขจัดความทุกข์ที่พี่น้องเผชิญมาตลอด 8 ปี ขจัดกองหนี้สินที่เกิดขึ้นใต้รัฐบาลชุดที่ผ่านมา และการขจัดปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องเสียแรง วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ชาวปทุมธานีพร้อมใจกันเดินเข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้งคนทั้งพรรค อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยรณรงค์ยุทธศาสตร์ ‘แลนด์สไลด์’ ที่ตัวเลข 250 เสียง แต่วันนี้ขยับตัวเลขไปที่ 310 เสียง เพราะเมื่อกระแสของพรรคมาแรงขึ้น ทำให้มี ส.ว. บางคนเริ่มประกาศออกมาแล้วว่าหากเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะจัดตั้งได้ก็ต่อเมื่อได้เก้าอี้ 370 ขึ้นไป  เพราะจะชนะเสียง ส.ว. อย่างเด็ดขาด พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องรณรงค์วิธีใหม่ ขอความร่วมมือจากพี่น้องทั้งประเทศ เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย ให้การเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไทยชนะขาดและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

“ถ้าได้ครึ่งๆ กลางๆ 260 เสียงก็ยังไม่ชนะขาด วันนี้ต้องไม่รักพี่ไม่เสียดายน้อง ไม่เลือกพ่วง เพื่อไทยจะขอจับมือกับพี่น้องชาวปทุม ร่วมกัน ‘คิดใหญ่’ เปลี่ยนชีวิตคนไทย” นายแพทย์ชลน่านกล่าว 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีที่ได้มาเจอชาวปทุมธานี เพราะในอดีตสมัยรัฐบาลไทยรักไทยของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสบรรจุจังหวัดปทุมธานีอยู่ในการนำร่องโครงการ “30 บาท รักษาทุกโรค” รวมถึงในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จังหวัดปทุมธานีก็เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องที่ได้ปรับขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท

“ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยรับรู้ถึงปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวปทุมธานีมาโดยตลอด  อยากให้พี่น้องประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยจึงเสนอนโยบายดีๆ ทั้งการเติมเงินรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ให้ครบ 20,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องมีรายได้พอใช้ในครัวเรือน ก่อนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะรีบฟื้นฟูเศรษฐกิจ และภายในต้นปีหน้าค่าแรงของพี่น้องประชาชนจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่นอน   รวมถึงปัญหายาเสพติดที่ระบาดมากมาย หาง่ายได้ทั่วไป เพื่อไทยจำเป็นต้องแลนด์สไลด์ ปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3ป. แต่จะเอา 3 ป. ที่สร้างสรรค์มาแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่ 1.ป. ปราบ ทั้งผู้ขาย เจอที่ไหนจับที่นั่น 2.ป.เปิด เปิดเวทีพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านร่วมมือกันจับแหล่งผลิตยาเสพติด  3.ป.เปลี่ยน เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ได้รับการรับการรักษาคืนสู่อ้อมกอดของสังคม ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าพี่น้องประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบาก ต้องเป็นหนี้เป็นสินกันมากมาย พรรคเพื่อไทยจึงขออาสาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอีกครั้งด้วยนโยบาย “คิดใหญ่ ทำเป็น” มั่นใจว่า ส.ส.ที่มาจากเสียงของประชาชน จะทำเพื่อประชาชน มีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลาง แน่นอน 14 พ.ค.นี้ขอให้พี่น้องประชาชนไปสิทธิ์ เรียกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อให้เราช่วยคืนชีวิตที่ดีให้พี่น้องประชาชนได้มีศักดิ์ศรีอีกครั้ง”

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออกและแขวงทรายกองดินใต้)  พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้มีโครงการบริหารจัดการน้ำ  ป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยเฉพาะจังหวัดปทุมธานีซึ่งถูกน้ำท่วมหากมีน้ำเหนือไหลบ่ามา ทั้งยังอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งธรรมชาติการไหลของน้ำ ในช่วงเย็น น้ำจะไหลขึ้นเหนือ เนื่องจากน้ำทะเลหนุน  ในเช้าวันถัดไปน้ำจะไหลลงทะเลที่ จ.สมุทรปราการ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ถูกปฏิวัติยึดอำนาจในปี 2557  น้ำจะไม่ท่วมปทุมธานี  ในโครงการบริหารจัดการน้ำ จะมีการสร้างเขื่อนกั้นทะเล  น้ำในคลองต่างๆ จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงค่ำ และจะไหลลงทะเลในช่วงเช้า แนวคิดนี้เช่นเดียวกับที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเหมือนไทย คนสามารถอยู่ร่วมกับน้ำได้ ป้องกันภัยแล้ง ป้องกันน้ำท่วมได้  สามารถบริหารจัดการแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่านได้  เมื่อน้ำไม่ท่วม  ราคาข้าวจะปรับตัวดีขึ้น

“ส.ว.ยังมีอายุอีก 1 ปี  เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ให้มากกว่า 310 เสียง  เราจะเอาเศรษฐกิจดี ๆ เราจะเอาผู้นำดีๆ ไปต่างประเทศ  เราต้องมีความสุข  ไม่ใช่ไปแล้วไปอาย ต้องเลือกเพื่อไทยสถานเดียว” นายจิรายุ กล่าว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนปทุมธานีมีประวัติร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  มีส่วนทำให้ไทยรักไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลายได้ 377 ที่นั่ง เป็นพรรคแรกที่นำนโยบายไปทำให้ประสบความสำเร็จ ในปี 2548 สุดท้ายก็เกิดรัฐประหาร แต่พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งอีก เขาก็ใช้กลไกรัฐธรรมนูญมาล้มรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร คนปทุมธานีก็ออกไปต่อสู้ให้รัฐบาลในค่ายทหารยุบสภา และในปี 2554 คนไทยทั้งประเทศก็ยังยืนยันเลือกพรรคเพื่อไทย 265 เสียง ในจำนวนนั้นปทุมธานีเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัดทุกคน การยึดอำนาจในปี 2557 ทำให้เสียโอกาส อย่างรถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ไปเชียงใหม่ และจากปทุมธานีไปอีสานต่อกับ สปป.ลาว   และแผนระบบจัดการน้ำ ถ้ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ถูกยึดอำนาจตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

“ปทุมธานีปลูกข้าว 3 แสนไร่ แต่เกษตรกรยังเดือดร้อน ปุ๋ยแพง 3 เท่า แต่รัฐบาลไม่ได้สนใจไปเจรจาแก้ปัญหา  มีโรงงาน 3,000 แห่ง แต่การส่งออกติดลบ เพราะสนใจแต่เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตช้าที่สุดในอาเซียน หลังการเกิดโควิดก็ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ช้าที่สุด รายได้ต่อหัวอันดับต่ำสุดในอาเซียน นี่คือสิ่งที่ประยุทธ์ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อไป” นายจาตุรนต์กล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวย้ำว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะบริหารให้เกียรติประชาชน ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเส้นความยากจน ให้ถึง 20,000 บาทต่อครอบครัว คนไทยอายุ 16 ปีบริบูรณ์ไม่ว่าจะกลุ่มความหลากหลายทางเพศมีบัตรประชาชน มีกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยวันที่ 5 เมษายนจะประกาศตัวเลขจำนวนเงิน ส่วนบัตรคนจนทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์แห่งความยากจน ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย ไม่เอากัญชาไว้ในมือเยาวชน ยาเสพติดต้องหมดไป ประชาชนจะกลับมาอยู่ดีกินดี

“พี่น้องที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน มีคนถามมาตลอดว่าพี่น้องเสื้อแดงบางจังหวัดพลัดพรากจากพรรคเพื่อไทย ผมเชื่อว่าประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่มีทางที่จะทรยศหักหลังประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาสืบทอดอำนาจ”  นายณัฐวุฒิ กล่าว