พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดแยกพระพุทธร้องถูกห้ามขายของ สั่งรื้อถอนร้านค้าออกจากผิวจราจร

พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดแยกพระพุทธร้องถูกห้ามขายของ สั่งรื้อถอนร้านค้าออกจากผิวจราจร





ad1

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดชุมชนแยกพระพุทธ อ.เทพา จ.สงขลา เกือบ 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หลังได้รับความเดือดร้อน ห้ามขายของบนทางจราจร และไหล่ทาง โดยให้ทำการรื้อถอนร้านค้าออกจากผิวจราจร

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดนัดสี่แยกพระพุทธ อ.เทพา จ.สงขลา เกือบ 100 คน เดินทางด้วยรถบัส 2 คัน นำโดย นายนพดล รามันเซะ และนายสการียา สาหลี ตัวแทนชาวบ้านตลาดนัดพระพุทธ เพื่อมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา หลังจากที่ได้รับผลกระทบห้ามขายของบนทางจราจร และไหล่ทาง โดยให้พ่อค้าแม่ค้ารื้อถอนร้านค้าออกจากผิวจราจร โดยมี นายทวีศักดิ์ สุทธินนท์ นิติกรชำนาญการพิเศษ เป็นตัวแทนรับหนังสือ และจะส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รวมทั้งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป

ชาวบ้านบอกว่า สำหรับตลาดนัดชุมชนแยกพระพุทธ ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา เป็นตลาดนัดชุมชนริมทาง ตามวิถีชาวบ้านมุสลิมดั้งเดิมมาตั้งแต่อดีต ยาวนานมาประมาณ 20 ปี สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ชุมชนคนในพื้นที่ให้มีอาชีพทำกินขั้นพื้นฐานกว่า 162 ครัวเรือน ก่อให้เกิดความสะดวกต่อวิถีชีวิตในการจับจ่ายซื้อของจากสังคมคนในพื้นที่ และนอกพื้นที่มาโดยตลอด

ทั้งนี้ ตลาดนัดพระพุทธ เปิดทำการค้าขายในช่วงเย็นเท่านั้น ไม่เป็นการกีดขวางทางจราจรบนถนนส่วนรวมแต่อย่างใด เนื่องจากค้าขายริมทางแยกโซนการค้าขายชัดเจน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับถนนเส้นหลัก (ถนนสาย 43) บริเวณที่ตั้งร้านค้าตั้งแต่แยกพระพุทธเข้ามาเป็นทางตัน ไม่ใช่เส้นทางสัญจรของคนนอกพื้นที่ อีกทั้งคนในพื้นที่ไม่กระทบการใช้ถนนระหว่างโซนร้านค้าแต่อย่างใด และสิ่งที่สำคัญที่สุดของตลาดนัดแห่งนี้ คือ เป็นตลาดชุมชนที่แท้จริง ไม่มีนายทุนหรือบุคคลใดอยู่เบื้องหลัง ขับเคลื่อนด้วยชาวบ้านทั้งจากในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการนำเอาผลผลิตที่หาได้จากท้องถิ่น ทั้งจากทะเล และเพาะปลูก มาสร้างรายได้เลี้ยงชีพ ส่งตรงถึงผู้บริโภคด้วยราคาถูก ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางใดๆ ทำให้ได้ของถูก และสดใหม่ จำหน่ายแก่ชาวบ้านทั้งในและพื้นที่ใกล้เคียงไว้ใช้บริโภคภายในครอบครัว สร้างกระแสเงินหมุนเวียนวันละ 150,000 บาท เดือนละ 4,500,000 บาท หรือปีละ 54,000,000 บาท

แต่เมื่อวันที่ 7 มี.ค.66 แขวงทางหลวงสงขลาที่ 2 (นาหม่อม) กรมทางหลวง โดยหมวดทางหลวงเทพา ได้ออกหนังสือห้ามชาวบ้านในชุมชนทุกคนขายของในตลาดนัดพระพุทธอีก โดยให้รีบรื้อร้านค้าของชาวบ้านที่มีมาอย่างยาวนานออกภายในวันที่ 15 มี.ค.66 ยิ่งกว่านั้นได้นำเอาข้อกฎหมายมาบีบบังคับจิตใจ ว่าจะระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แก่ชาวบ้านผู้หาเลี้ยงชีพในตลาดนัดแห่งนี้ด้วย

จึงได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยอ้างเหตุผลหลายข้อเช่น

1) ตลาดนัดชุมชนพระพุทธ เป็นตลาดนัดที่ไม่แตกต่างจากตลาดนัดทั่วไปที่ค้าขายอยู่ริมทางข้างถนน มีการแยกโซนค้าขาย ไม่กีดขวางทางจราจรหลักชัดเจน ที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนใดๆ ถือเป็นตลาดนัดเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การคงไว้ใน อ.เทพา มากที่สุด ไม่ควรจะถูกให้รื้อถอน แต่ควรจะเป็นแหล่งศูนย์รวมสินค้าชุมชน เนื่องจากมีสินค้าหลายประเภทที่นำมาขายยังชุมชนแห่งนี้

2) ปรากฏกระแสข่าวลือว่า การสั่งให้ย้ายร้านค้าในตลาดแห่งนี้ออกเป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่ง เนื่องจากมีการหาเสียงไว้ว่าในอนาคตได้เตรียมโครงการสร้างสะพานข้ามแยกพระพุทธ ระหว่างขาขึ้นและขาล่องไป จ.ปัตตานีไว้แล้ว หากไม่รีบไล่ให้ชาวบ้านย้ายตลาดออกจากจุดเดิม เมื่อถึงกำหนดการสร้างสะพานข้ามแยกพระพุทธ กลุ่มชาวบ้านร้านค้าในตลาดจะเป็นหนามยอกอกคัดค้านโครงการดังกล่าว จึงรีบบีบบังคับกรมทางหลวงให้รีบเร่งไล่ชาวบ้านออกจากตลาดแห่งนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งกรณีดังกล่าวขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สืบข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงแก่ชาวบ้านด้วย

3) ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้คำรับรอง คำมั่นสัญญากับชาวบ้าน ร้านค้า ว่าจะไม่มีหน่วยงานใดมายุ่งเกี่ยวกับวิถีชีวิตชุมชนแห่งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาชุมชนแห่งนี้ไม่ทำความเดือดร้อนให้ผู้ใด มีแต่กระจายรายได้ สร้างอาชีพให้ผู้ยากไร้ในฐานะพ่อค้าแม่ค้าทั้งสิ้น จึงขอความอนุเคราะห์ให้ตลาดแห่งนี้ยังคงอยู่ เพื่อเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชนต่อไป