“ธรรมนัส” มั่นใจ พลังประชารัฐกวาดเก้าอี้ ส.ส.พะเยา-แม่ฮ่องสอน ยกจังหวัด

“ธรรมนัส” มั่นใจ พลังประชารัฐกวาดเก้าอี้ ส.ส.พะเยา-แม่ฮ่องสอน ยกจังหวัด





ad1

“ธรรมนัส” ลงพื้นที่แม่ฮ่องสอน เลือกผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ หาเสียง มั่นใจ ได้ ส.ส.ยกจังหวัด รวมถึงพะเยาด้วย ส่วนจังหวัดอื่นๆ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 เขตแน่นอน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายปกรณ์ จีนาคำ และเขตเลือกตั้งที่ 2 นายจำลอง ศรีสวัสดิ์ จากนั้นไปปราศรัยหาเสียง ณ หอประชุมโรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้แก่ นางสาวธนพร ศรีวิราช และนายปัญญา จีนาคำ ร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่มาให้กำลังใจและรับฟังนโยบายอย่างเนืองแน่น

ร้อยเอกธรรมนัส ปราศรัยในช่วงหนึ่งว่า ชาวแม่ฮ่องสอนเป็นคนดี น่ารัก เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมาแล้วมีความสุข ดังคำขวัญว่า หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง มีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ มีธรรมชาติสวยงาม เรามีทั้งพี่น้องชาติพันธุ์ ทั้งไทใหญ่ มูเซอ และคนเมืองแท้ๆ ที่ต่างก็ร่วมกันรักษาอัตลักษณ์และประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามไว้เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สามารถผลักดันเป็นเมืองท่องเที่ยว ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) สำคัญของประเทศไทยอีกด้วย

ที่สำคัญ พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ใครมีเอกสารสิทธิเป็น ส.ป.ก. จะเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สร้างรายได้และประกอบอาชีพ ส่วนใครที่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าหรือเขตอุทยานในเอกสาร คทช. ก็จะเปลี่ยนเป็น สปก.4-01 ให้สำเร็จ เชื่อว่าจะช่วยคลายความเดือดร้อนของชาวแม่ฮ่องสอนส่วนใหญ่ เราจะช่วยแก้ปัญหาขัดแย้ง และจะนำไปสู่การข้ามความยากจน เพราะที่ผ่านมาแม่ฮ่องสอนยังเป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับมีรายได้ต่อหัวของประชากรต่อปีน้อยที่สุดในประเทศ และน้อยที่สุดใน 8 จังหวัดภาคเหนือ วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ อย่าลืมไปกาบัตรสีม่วง และบัตรสีเขียว เลือกพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นรัฐบาลดูแล แก้ปัญหาให้ทันที

“พรรคพลังประชารัฐ มีหลักยึดสำคัญชัดเจนคือก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนก้าวข้ามความยากจน เราใส่ใจและดูแลประชาชนฐานราก คือพ่อแม่พี่น้องประชาชนซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลมุ่งเอาใจและดูแลกลุ่มทุนซึ่งอยู่บนสุด มีแต่มาหาเสียงเอาใจ พอได้เป็นรัฐบาลก็ลืม ทำให้กลุ่มทุนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ขณะนี้ประชาชนประสบปัญหาน้ำมันแพง แก๊สแพง นโยบายของพรรคพลังประชารัฐจึงจะมาช่วยแบ่งเบาภาระ ทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาลจะลดราคาน้ำมันดีเซล 6.30 บาทต่อลิตร เบนซิน 18 บาทต่อลิตร ลดราคาแก๊สเหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย สานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท และผู้ถือบัตรยังมีประกันชีวิตอีก 200,000 บาทด้วย นี่คือนโยบายช่วยเหลือให้ประชาชน เพื่อเป็นครอบครัวประชารัฐที่มีความเข้มแข็งอยู่ดีกินดี”