"รองอ๊อฟ" กล่อม "แอม ไซยาไนด์"ให้ยอมสํานึกผิด เจ้าตัวร่ำให้ทําผัวติดร่างแห

"รองอ๊อฟ" กล่อม "แอม ไซยาไนด์"ให้ยอมสํานึกผิด เจ้าตัวร่ำให้ทําผัวติดร่างแห





ad1

กรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ก่อคดีสะเทือนขวัญวางสารพิษไซยาไนด์เหยื่อนับสิบราย เกี่ยวพันการกู้ยืมเงิน รับจำนำรถ จำนำที่ดิน และวงแชร์ เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว ล่าสุดถึงขนาด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ต้องลงมานั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะทำงานเอง สั่งให้รวมคดีจากทุกท้องที่ให้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้สอบสวน ขณะที่การสอบสวนยังดำเนินการต่อเนื่อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง อดีตสามี 2 ข้อหาประกอบด้วยข้อหาร่วมกันรับของโจร และข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม พร้อมสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว

ขณะที่ศาลจังหวัดนครปฐม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐม ขอฝากขัง พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ถูกกล่าวหาร่วมกันรับของโจร ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม ผู้ต้องหาถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมแสดงความยินยอมติดอุปกรณ์กำไลอีเอ็ม (EM) ระหว่างการปล่อยชั่วคราวด้วย

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าสอบผู้ร้องแล้วได้ความว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.2566 จนถึงปัจจุบันยังไม่พบพยานหลักฐานที่บ่งชี้ หรือยืนยันว่าผู้ต้องหามีส่วนร่วม หรือเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม มีเพียงความเกี่ยวพันเฉพาะคดีนี้ ประกอบกับเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นบ้านพักที่ผู้ต้องหากับ น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ แจ้ง ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีธนาคารนั้นบันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ บุคคลภายนอกไม่อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ผู้ต้องหาประสงค์จะไปพบ น.ส.สรารัตน์ที่ทัณฑสถานหญิงกลางพร้อมเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อพูดคุย หาก น.ส.สรารัตน์กระทำผิดจริงจะขอให้การรับสารภาพ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะออกหมายขัง อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 100,000 บาท และใส่กำไลอีเอ็ม

ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า รองอ๊อฟบอกว่า ถ้าศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขอคุยกับแอมในเรือนจำเพื่อให้แอมสารภาพทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นอกจากพยานเจ้าหน้าที่ยังพบความเชื่อมโยงเรื่องเส้นทางการเงินของน้อยหน่าในบางส่วนแต่ยังพบไม่หมด จึงนัดหมายให้ รอง ผกก. (สอบสวน) ที่ดูแลเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดเร่งดำเนินการในช่วงวันหยุด 4 วันนี้ ไม่แน่ใจว่าจะออกหมายจับรองอ๊อฟเพิ่มเติมในฐานความผิดร่วมกันฆ่าได้หรือไม่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตำรวจนำตัวรองอ๊อฟไปค้นบ้านที่ จ.นครปฐม และบ้านของแอมที่ จ.กาญจนบุรี ตรวจหาสารไซยาไนด์ หลังจากค้นบ้านเสร็จจะไปส่งฝากขังศาล ถ้ารองอ๊อฟได้ประกันจะพาไปทัณฑสถานหญิงกลาง หลักสำคัญของคดีนี้คือ การรับสารภาพของแอม เพราะรองอ๊อฟบอกว่าสามารถพูดให้แอมรับสารภาพได้ ตนจะให้ทั้งคู่ต่อรองกัน เพราะเราไม่มีเงื่อนไขใดๆกับรองอ๊อฟ รวมทั้งกันไว้เป็นพยาน จะดำเนินคดีเต็มที่ ส่วนที่รองอ๊อฟให้ความร่วมมือเพราะตนคุยตรงๆว่า เราเป็นตำรวจเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง คดีนี้สังคมชี้ไปแล้ว อีกทั้งศาลยังออกหมายจับ อะไรที่เป็นประโยชน์ต้องช่วยตัวเอง ให้รับสารภาพ ให้ไปคุยกับแอมเพื่อให้การเป็นประโยชน์ ทำหนักให้เป็นเบา

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ระหว่างการสอบสวนแอมร่ำไห้ เพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องสามีที่โดนให้ออกจากราชการจากการกระทำของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะทำงานและใช้ชีวิตอย่างไร รวมถึงกังวลเรื่องลูกด้วยว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร แต่วันนี้แอมยังไม่ยอมรับสารภาพในคดีฆ่าหรือให้การใดๆ ตนพยายามพูดให้เห็นว่า พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนนั้นไปไกลแล้วที่จะเอาผิด พนักงานสอบสวนเห็นว่า การให้สามีมาเกลี้ยกล่อมจะทำให้เขาให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนตัวอ๊อฟไม่มีความเครียด แต่แอมเครียดมากโดยเฉพาะความกังวลในเรื่องลูก การอยู่ในสังคมของลูก หลังออกจากราชการสามีจะไปทำงานที่ไหน แอมบอกว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นผลจากสิ่งที่เขาทำทั้งสิ้น