มอดไม้เหิมเดินหน้าทำลายป่าสงวนต้นน้ำ เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง แม่น้ำปัตตานี

มอดไม้เหิมเดินหน้าทำลายป่าสงวนต้นน้ำ เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง แม่น้ำปัตตานี





ad1

ภายใต้การสั่งการอำนายการโดย พล.ต.ต.สมกูล กาญจนอุดมการ ผบก.ตชด.ภาค 4 และ พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.44 สั่งการให้ พ.ต.ท.กรณ์ ไชยเสือ ผบ.ฉก.ตชด.44 ให้ส่งกำลัง จนท.ฉก.ตชด.44 นำโดย พ.ต.ท.อาคม โพธิ์อ่อง รอง ผบ.ฉก.ฯ ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.ธารโต และฝ่ายปกครองท้องที่ ผู้ใหญ่บ้านไทยพัฒนา ม.4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา และ ผรส.ให้ร่วมออกตรวจสอบพิสูจน์ทราบ พื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำถูกลักลอบทำลาย ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในเขตพื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำนิคมสร้างตนเองธารโต ท้องที่ บ้านไทยพัฒนา ม.4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา

เนื่องจากได้รับแจ้งจาก กอ.รมน.ภาค 4 สน.ว่ามีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย จำนวนหลายจุด ในพื้นที่ ม.4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา คณะเจ้าหน้าที่ ตรวจพบแล้วจำนวน 1 จุด คณะ จนท.จึงร่วมเดินเท้าจากแนวถนน ตรวจสอบถึงที่บริเวณแนวเชิงเขาขึ้นไปแนวเชิงเขา ผ่านสวนผลไม้ ผ่านป่าไม้สมบูรณ์ พบพื้นที่ป่าไม้มีร่องรอยการตัดถนนใหม่ พบร่องรอยรถไถของรถแบ็คโฮตัดถนน จึงตามรอยไถ่ปรับเป็นถนนไปในพื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำ จนถึงแนวสันเขา ห่างจากแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ประมาณ 1,800 เมตร เป็นท้องที่ กลุ่มบ้านไทยพัฒนา ม.4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา คณะ จนท.ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์มาก มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมารก เป็นป่าต้นน้ำคลองใหญ่

ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่น้ำปัตตานี เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง กำลังถูกทำลาย ตรวจพบการบุกรุกป่าไม้โดยใช้รถแบ็คโฮตัดเป็นถนน เป็นขั้นบันใด เพื่อเอาไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่และเอาพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร ตรวจสอบเบื้องต้น พื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำถูกทำลายเสียหายประมาณจำนวน 10 ไร่ และในพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์บริเวณใกล้เคียง มองบเห็นพื้นที่ป่ากำลังถูกทำลายหลายแปลง และพบต้นไม้ขนาดใหญ่ มีค่า ชนิดต่าง ๆ ถูกตัดด้วยเครื่องโซ่ยนต์ ล้มล้มคาตอประมาณ 20 ต้น บางต้นถูกตัดทอนเป็นท่อน และยังมีต้นขนาดกลาง ขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ขณะตรวจสอบ ไม่พบผู้กระทำความผิด ไม่พบอุปกรณ์ในการตัดไม้ทำลายป่าแต่อย่างใด ในที่เกิดเหตุ

เหตุเกิดที่ บริเวณบนภูเขาตามแนวเทือกเขาสันกาลาคีรี ป่าสงวนต้นน้ำคลองใหญ่ แม่น้ำปัตตานี เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง เขตป่าสงวนต้นน้ำเพื่อกิจการนิคม เป็นท้องที่ บ้านไทยพัฒนา ม.4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ห่างจากแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ประมาณ 1,800 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ นิคมสร้างตนเองธารโต และ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.3 (ลำพะยา-บันนังสตา-ฮาลา) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (นราธิวาส)

ซึ่งการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ลักลอบตัดถนนในป่าสงวนต้นน้ำ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484  หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตะเวนชายแดนที่ 44 จัดทำหนังสือแจ้ง ผู้บังคับบัญชา และ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองธารโต, หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.3 (ลำพะยา-บันนังสตา-ฮาลา) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (นราธิวาส) และผู้มีหน้าที่ ปกป้องรักษาป่า เพื่อร่วมตรวจสอบรายละเอียดความเสียหายของพื้นที่ป่าและต้นไม้ที่ถูกตัด อีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบต่อไป

โดย...เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา