สุราท้องถิ่นน่านขายดี หวังรัฐบาลใหม่สนับสนุนจริงจัง ปลดล็อคข้อจำกัด

สุราท้องถิ่นน่านขายดี   หวังรัฐบาลใหม่สนับสนุนจริงจัง ปลดล็อคข้อจำกัด





ad1

น่าน- สุราท้องถิ่นน่านขายดี   หวังรัฐบาลใหม่สนับสนุนจริงจัง ปลดล็อคข้อจำกัด ยกระดับภูมิปัญญาสุราพื้นบ้านเป็นซอร์ฟพาวเวอร์

จากกระแสสุราก้าวหน้า ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดเรื่องสุรากลั่นชุมชนและสุราพื้นบ้าน จนเป็นกระแสในขณะนี้ ส่งผลให้สุรากลั่นชุมชน และสุราพื้นบ้านที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ในจังหวัดน่าน อาทิ ยี่ห้อ  ล่องน่าน,ไทพวน,กระซิบรัก และเหม๊าะ มีการสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนผลิตไม่ทัน  ต้องปรับการขาย เป็นพรีออเดอร์  ทยอยส่งให้ลูกค้าตามคิว   และฝากรัฐบาลใหม่ต้องสนับสนุนจริงจัง มั่นใจสุราท้องถิ่นฟื้นเศรษฐกิจชุมชนได้

โดยนายชลธี  ทำทิพย์  เจ้าของสุราท้องถิ่น ยี่ห้อ ล่องน่าน  เปิดเผยว่า  ถึงแม้ว่า แบรนด์ล่องน่าน จะไม่ได้ถูกกล่าวถึงโดยตรง แต่ก็ได้รับผลดีไปด้วย ตอนนี้มีลูกค้าให้ความสนใจสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก  จนสินค้าในสต๊อกหมดเกลี้ยง ต้องปรับเป็นรับแบบพรีออเดอร์ แล้วทยอยส่งให้ลูกค้าตามคิว  ทั้งนี้หวังว่ารัฐบาลใหม่จะสนับสนุนสุราท้องถิ่นจริงจัง และยกระดับสุราท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในทุกชนชั้น และได้เปิดตลาดในต่างประเทศด้วย

เช่นเดียวกับ ยี่ห้อกระซิบรัก  พัทธนันท์ โชติกรฐิติภัสร์  เจ้าของบอกว่า ขายดีมากที่สุดตั้งแต่ขายมา  ต้องขอขอบคุณ “พิธา” ที่ช่วยปลุกกระแส ให้สินค้าชุมชน อย่างสุราท้องถิ่น ได้มีโอกาสทางการตลาด ได้มีที่ยืนในตลาด ได้ลืมตาอ้าปาก  ทั้งนี้สุราท้องถิ่นในจังหวัดน่าน ส่วนใหญ่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้สูตรดั้งเดิมที่มีวัตถุดิบจากข้าวและลูกแป้ง  ส่วนรสชาติจะแตกต่างกันไปก็ขึ้นอยู่จากเทคนิคของแต่ยี่ห้อ  ซึ่งเชื่อว่าหากสุราท้องถิ่นได้มีโอกาสทางการตลาด จะช่วยสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้ดีขึ้น

ขณะที่ นายจิตติ  บุบผา  เจ้าของ สุราท้องถิ่น ยี่ห้อ ไทพวน   ซึ่งนำภูมิปัญญาทำสุราท้องถิ่น มารวมกับอัตลักษณ์ความเป็นชาติพันธุ์ไทพวน  ไว้บนขวดจนได้รับความนิยม ยังคงยืนยันว่าแม้จะขายดีจนผลิตไม่ทัน ลูกค้าได้สินค้าช้าหน่อย แต่มั่นใจได้ในคุณภาพ และรสชาติ และ นิดา ธรรมดูุล  เจ้าของยี่ห้อ เหม๊าะ และไวน์เนอรี่   บอกว่า ขณะนี้ขายดีเฉลี่ยวันละกว่า 100 ขวด ซึ่งทำให้มีกำลังใจที่จะพัฒนาสินค้าขึ้นไปอีก โดยเตรียมออกแบบขวดบรรจุ แพคเกจจิงให้มีความทันสมัย ถูกใจลูกค้าหลากหลายกลุ่ม รวมทั้งรองรับการท่องเที่ยวด้วย

สำหรับจังหวัดน่าน มีโรงต้มเหล้าชุมชนที่ถูกกฎหมาย จำนวน 171 โรง กำลังการผลิตโดยเฉลี่ย 50 ลิตร ต่อวันต่อโรง   แต่ละโรงมีสูตรการหมักบ่มและกลั่นด้วยภูมิปัญญาแตกต่างกัน คุณภาพน้ำเหล้าจึงขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละยี่ห้อ  อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระแสสุราก้าวหน้า  จะส่งผลให้สุราท้องถิ่นขายดี แต่หลายคนก็ยังวิตกว่าจะเป็นเพียงกระแส อยากฝากให้รัฐบาลสนับสนุนจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องกฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเรื่อง พ.ร.บ. คือเรื่องของการห้ามโฆษณาตาม ม.32 และข้อจำกัดของกฎหมาย

เช่น เรื่องกำลังการผลิต ขนาดแรงม้าของเครื่องจักรในโรงกลั่น การผลิตคราฟเบียร์หรือสุราสี ก็ควรปรับลิมิตในการผลิตให้ต่ำลง เพื่อให้โรงผลิตระดับชุมชนสามารถขออนุญาตผลิตได้ ซึ่งสำหรับสุราสีกฎหมายได้เขียนไว้ว่ากำลังผลิตต้อง 30,000 ลิตร หรือ 90,000 ลิตร ต่อวัน หากกฎหมายใหม่จะเกิดขึ้นก็ต้องปรับระดับปริมาณการผลิตให้ต่ำลง ซึ่งกฎหมายเหล่านี้เป็นข้อจำกัดไม่ให้สุราชุมชนเติบโตไปได้