รวบผัวเมียแสบอ้างรับซื้อผลไม้ราคาดีหลายร้อยกิโล สุดท้ายไม่จ่ายเงินเจ้าของสวน

รวบผัวเมียแสบอ้างรับซื้อผลไม้ราคาดีหลายร้อยกิโล สุดท้ายไม่จ่ายเงินเจ้าของสวน





ad1

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบผัวเมียแสบอ้างรับซื้อผลไม้ราคาดีหลายร้อยกิโล สุดท้ายไม่จ่ายเงินเจ้าของสวน พบประวัติเคยทำหลายครั้ง มีหมายจับรวมกัน 4 หมาย 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.พร้อมคุณ ทองบัว สว.กก.5 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.ต.ชัยศิริ ธรรมแก้ว รอง สว.(ป.) กก.5 บก.ป., ด.ต.สมศักดิ์ จองศิริ, ด.ต.วิชัยรัตน์ คชรัตน์, ด.ต.วิทวัส จันทร์แก้ว, ด.ต.ณัฏฐ์ธนัน  ม่วงยืนนาน, ด.ต.ราชสิทธ สำเริงราช, จ.ส.ต.ปริวัตร เป็งใจ, ส.ต.อ.ศักดิ์กมล นาคแก้ว ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุม  
1. น.ส.รัชติยาฯ อายุ 49 ปี 
2. นายยุทธนาฯ อายุ 54 ปี 

หมายจับ  
1. ตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ จ.30/2560 ลง 9 มีนาคม 2560 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
2. ตามหมายจับศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ที่ จ.109/2563 ลง 26 พฤศจิกายน 2563 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
3. ตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.194/2566 ลง 7 เมษายน 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
4. ตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.195/2566 ลง 7 เมษายน 2566 

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน 
“ร่วมกันฉ้อโกง” 

สถานที่จับกุม บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ม.10 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร

พฤติการณ์ กล่าวคือก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายประกอบอาชีพค้าขายผลไม้อยู่ที่ตลาดในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ต่อมาได้มี น.ส.รัชติยาฯ กับ นายยุทธนาฯ ผู้ต้องหา สองสามีภรรยา เดินทางมาที่ร้าน และได้สั่งซื้อผลไม้
จากผู้เสียหาย เพื่อจะนำไปขายต่อให้กับลูกค้าย่อยรายอื่น จำนวนหลายร้อยกิโล เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.63 ตลอดเรื่อยมาจนถึงวันที่ 11 มี.ค.63 น.ส.รัชติยาฯ ได้ทำทีสั่งผลไม้ และจ่ายเงินให้บางส่วน 

จนกระทั่ง วันที่ 2 มี.ค.63 น.ส.รัชติยาฯ ส่งข้อความมาแจ้งว่า ผลไม้ไม่ตรงตามที่คุยไว้ โดยอ้างว่าผลไม้มีปัญหา แต่ผู้เสียหายไม่เห็นด้วย และปรับราคาให้แล้ว ผู้เสียหายเห็นว่า น.ส.รัชติยาฯ ไม่ยอมชำระเงิน จึงไม่ได้ส่งมอบผลไม้ให้ และน.ส.รัชติยาฯ แจ้งว่าจะชำระเงินที่ค้างให้ 20,000 บาท ต่อมาในวันที่ 9 มี.ค.63 นายยุทธนาฯ และ น.ส.รัชติยาฯ ขอเลื่อนชำระเป็นวันที่ 10 มี.ค.63 

ต่อมาในวันที่ 11 มี.ค.63 ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อ น.ส.รัชติยาฯ และนายยุทธนาฯ ผู้เสียหาย        จึงสอบถามไปยังลูกค้าของกลุ่มผู้ต้องหานั้น โดยที่อ้างว่าไม่มีเงินมาชำระให้ผู้เสียหายนั้น เนื่องจากลูกค้าไม่ยอมโอนเงินมาให้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ลูกค้าของน.ส.รัชติยาฯ แจ้งว่าไม่เป็นความจริง ได้โอนเงินชำระค่าผลไม้ทุกครั้ง โดย น.ส.รัชติยาฯ ได้สั่งซื้อผลไม้จากผู้เสียหายในราคา กก.ละ 41 บาท แต่ไปขายต่อให้กับลูกค้าอื่นในราคาเพียง 27-28 บาท ซึ่งผู้เสียหายเห็นว่าเป็นการขายแบบขาดทุน ผิดปกติวิสัยของการค้าขายทั่วไป
รวมเงินค่าผลไม้ที่ น.ส.รัชติยาฯ ผู้ต้องหาได้หลอกลวงสั่งซื้อไปจากผู้เสียหายทั้งหมดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 109,136 บาท 

ซึ่งจากการกระทำของผู้ต้องหาเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย ผู้เสียหายจึงมา แจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่า
คดีจะถึงที่สุด 

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.รัชติยาฯ และนายยุทธนาฯ ได้ร่วมกันฉ้อโกงในลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง จนมีผู้เสียหายหลายรายไปร้องทุกข์ดำเนินคดี ปัจจุบันมีหมายจับรวมกัน 4 หมายจับ และอยู่ระหว่างดำเนินคดีอีกหลายคดี ความเสียหายหลายแสนบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจับกุม น.ส.รัชติยาฯ และนายยุทธนาฯ จนสืบทราบว่า ได้หลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.10 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงวางแผนดำเนินการจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา จ.ยะลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป