นอภ.สบเมย รายงานสถานการณ์แนวชายแดน หลังมีผู้อพยพลี้ภัยสงคราม ริมแม่น้ำสาละวิน ข้ามมาฝั่งไทย

นอภ.สบเมย รายงานสถานการณ์แนวชายแดน หลังมีผู้อพยพลี้ภัยสงคราม ริมแม่น้ำสาละวิน ข้ามมาฝั่งไทย





ad1

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566  ว่าที่นายกองโทอัครพันธุ์  พูลศิริ  ผู้บังคับกองร้อย กองอาสารักษาดินแดน( อส.)ที่ 7 อ.สบเมย/ นายอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียมา  ริมแม่น้ำสาละวิน อ.สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และผู้บังคับบัญชาได้ทราบสถานการณ์  ว่า  ตามที่ปรากฏสถานการณ์ การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย กลุ่มต่อต้านรัฐบาล  ในพื้นที่รัฐคะยา สหภาพเมียนมาตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน และที่รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามจังหวัดตาก  ได้มีกองทัพอากาศเมียนมา ได้ใช้อากาศยานเข้าโจมตีชนกลุ่มน้อย และสนับสนุนการป้องกันฐาน จำนวนหลายเที่ยวบิน นั้น

ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ดอนเมือง กองทัพอากาศ ได้ส่งเครื่องบิน T- 50  จำนวน 2 ลำ  ขึ้นบินจากกองบิน 4. อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์  โดยมีภารกิจ บินลาดตระเวนตามเเนวชายเเดน อ.สบเมย- อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.แม่สอด- อ.ท่าสองยาง อ.พบพระ จ.ตาก

รายยงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีผู้อพยพลี้ภัยสงครามในเมียนมาทะลักเข้าชายแดน  จ.แม่ฮ่องสอน กว่า 3,000 คน กองกำลังติดอาวุธ กลุ่มกะเหรี่ยงคะยา สนธิกำลังระหว่าง KA , KNDF และ PDF บุกเข้าโจมตีสถานีตำรวจบ้านแม่แจ๊ะ ในรัฐคะยา และค่ายทหารอีก 3 แห่ง ส่งผลให้มี ผู้ลี้ภัยสงครามในเมียนมาทะลักเข้าแม่ฮ่องสอนกว่า  กว่า 3,000 คน   โดยนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ได้รับแจ้งว่า จากสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่รัฐคะยา  สหภาพเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดกับ จ.แม่ฮ่องสอน

ส่งผลให้มีผู้อพยพ ลี้ภัยสงครามหนีเข้ามาพึ่งพิงในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 3,342 คน โดยหนีเข้ามาที่บ้านเสาหิน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ห้วยปู ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จำนวน 3,034 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะเข่ /พะโท ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม จำนวน 308 คน โดยทางศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดกำลังอาสาสมัคร( อส.)ร่วมกับทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)เข้าไปให้การช่วยเหลือและดูแลผู้หนีภัยสงครามเหล่านั้นตามหลักมนุษยธรรม

โดยกองกำลังนเรศวร และฝ่ายปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการติดตามสถานการณ์ในฝั่งเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย โดยทางด้านกองทัพอากาศ จัดอากาศยานขึ้นบินลาดตระเวนตามแนวพื้นที่ชายแดน จังหวัดตาก และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย