เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชา เดินสายทั่วไทย ล่า 50,000 รายชื่อ ไม่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
ขอนแก่น-เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชา เดินสายทั่วไทย ล่า 50,000 รายชื่อ ไม่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด มั่นใจรัฐบาลชุดใหม่รับฟัง เพราะกัญชาเป็นยามานานแล้ว
ที่ร้าน K CANNABIS Stonre ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสมาคมกัญชาจังหวัดขอนแก่น เลขที่ 22/25 ถ.อำมาตย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายประสิทธิ์ หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชา เปิดเผยว่า ขณะนี้ การเดินหน้าจัดทำร่าง พ.ร.บ. กัญชาภาคประชาชน ซึ่ง ก่อนยุบสภาผู้แทนราษฎร นั้นได้มี พ.ร.บ.กัญชาประชาชน ที่เดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อที่จะนำเสนอ พ.ร.บ.ให้พรรคก้าวไกล แต่สุดท้ายอยู่ที่การดำเนินงานในชั้นกรรมาธิการพิจารณา จากนั้นพรรคก้าวไกลได้ปรับเปลี่ยนให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยให้เหตุผลว่า การที่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดนั้นจะควบคุมได้
"กัญชาต้องมีการควบคุมเชิงระบบ ตั้งแต่เมล็ด การปลูก การแปรรูป การคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมีกฎหมายเฉพาะที่เรียกว่าพระราชบัญญัติ เพราะการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด มองว่า จะมีกติกาที่ออกแบบไม่ได้ ห้ามใช้กัญชา ปัญหาที่ตามมาคือ ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ การวิจัยพัฒนาที่เกี่ยวกับกัญชาจะหยุดชะงัก รวมทั้งการนำเข้า ส่งออก การแปรรูป เพราะกฎหมายกัญชาคือยาเสพติด"
นายประสิทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งสิทธิเสรีภาพ และความมั่นคงทางยา ทั้งหมดจะเป็นปัญหา เพราะประชาชนในชนบท ใช้กัญชาทำยามานานแล้ว คนเข้าใจว่ากัญชาคือการสูบ โดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้ง มีการปั่นข้อมูลจากนักการเมืองฝ่ายที่ไม่ชอบกัญชาทำให้คนไทยห่างไกลจากข้อมูลข้อเท็จจริง กลายเป็นว่าการสูบกัญชา คือสัญลักษณ์ ของกัญชาทั้งหมด ทั้งที่ความเป็นจริงกัญชาคือยารักษาคนที่ยากจน รักษาคนที่ป่วยเป็นโรครักษาไม่หาย จากการเดินทางไปจัดเวทีในหลายจังหวัด พบว่า อีสานเองเป็นพื้นที่ในการใช้กัญชาเป็นยารักษาโรค หากนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดอีก ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน มีงานวิจัยทั่วโลกสรุปว่ากัญชาเป็นยารักษาโรคได้ กว่า 70 ประเทศที่นำกัญชามาใช้เป็นยารักษาโรค ในส่วนข้อเสีย เราสามารถใช้กฎหมายมาบังคับใช้ได้
"ช่วงระหว่างรอรัฐบาลชุดใหม่ ทางเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชา จะเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อรื้อฟื้นภูมิปัญญาการรักษา อบรมทำผลิตภัณฑ์จากกัญชา ทั้งยาหม่อง ยาฉีด ชวนกันเสวนาพัฒนาองค์ความรู้ในการใช้กัญชาของแต่ละท้องถิ่น ที่สำคัญคือการร่วมลงชื่อไม่เอากัญชากลับไปสู่ยาเสพติด ให้แต่ละชุมชนลงนาม เอกสารนี้จะนำไปยื่นหลังจากที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้วตั้งเป้ารายชื่อ 50,000 รายชื่อ"
