ผู้ว่าฯศรีสะเกษเปิดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติตโลก 2566

ผู้ว่าฯศรีสะเกษเปิดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติตโลก 2566





ad1

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติถล่องสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี อำเภอเมืองศรีสะเกษ  นายสำรวย  เกษกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เนื่องในวันต่อด้านยาเสพติดโลก จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2566  

 โดยมีนายนพ  พงศ์ผลาดิสัย และนางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์. ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายธาตรี สิริรุ่งวนิช ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ  พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ. หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำข้าราชการ นักเรียนนักศึกษาและสื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษ  ร่วมในพิธีโครงการเป็นจำนวนมาก

ภายในงานมีกิจกรรมประกอบไปด้วยการมอบโล่และประกาศนียบัตรแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติตจังหวัด การจัดนิทรรศการงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดทางวิทยุกระจายเสียง FM 102.25 Mhz และ Facebook Live สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดศรีสะเกษ อีกด้วย  

                              สำรวย  เกษกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ 

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้สถานศึกษา องค์กรเยาวชน หมู่บ้น/ชุมซน องค์กรศาสนา สถานประกอบการหน่วยงาน/องค์กรภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ได้รับรู้และเข้าใจถึงโทษพิษภัยจากยาเสพติด  สามารถป้องกันตนเอง ครอบครัว สังคม ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด

เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้และเห็นถึงความสำคัญของวันต่อต้านยาเสพติดโลก(26มิถุนายน) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านยาเสพติดต เพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายถึงนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลที่ต้องการลคความเดือดร้อน ความทุกข์ยากของประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด

 เพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ตระหนักถึงภัยจากยาเสพติด เฝ้าระวังเสริมสร้างกิจกรรมเชิงบวกในพื้นที่ตนเอง มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่และองค์กรของจังหวัดศรีสะเกษต่อไป

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน