เปิดมุมมอง...นักธุรกิจใต้ ส่องกล้องอนาคต "ก้าวไกล- เพื่อไทย" จะต่ำร้อย จะแลนด์สไลด์ หรือจะสูญพันธุ์...?

เปิดมุมมอง...นักธุรกิจใต้ ส่องกล้องอนาคต "ก้าวไกล- เพื่อไทย" จะต่ำร้อย จะแลนด์สไลด์ หรือจะสูญพันธุ์...?





ad1

บรรดานักธุรกิจ ผู้ประกอบการค้าระดับใหญ่ จ.สงขลา ต่างก็ออกมาเปิดเผยมุมมองถึงสถานการณ์การเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลง อยากที่จะกั้นได้แล้วกับการเมืองใหม่กับคนรุ่นใหม่ จากการขยายตัวเติบโตของนิวโหวตเตชึ้นมากทุกปีต่อ 1 ล้านคน มาตั้งแต่ชั้นปรถมศึกษาตอนปลาย มันธยมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นศึกษาตอนปลาย ฯลฯ
 
ประกอบกับฝ่ายเก่าการเมืองเก่าที่จะต้องชะลอตัวไปตามสมัย อีกทั้งคนรุ่นเก่าก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะการเมืองใหม่  เพราะจากการเมืองเก่าที่ได้สัมผัสมาเกิดวิกฤติความเชื่อถือความเชื่อมั่นในบริบทของนักการเมืองเก่า

“การเมืองจะไม่พ้นการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะอยู่ร่วมกับมัน”

ผู้ประกอบการ รายเดิม สะท้อนมุมองอีกว่า  ประเด็นเรื่องพรรคก้าวไกลเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาหลายคดี จะถูกยุบพรรคหรือไม่ถูกยุบ ถ้ามามองดูจากที่ปรากฎการณ์และพิสูจน์ทราบแล้วว่า พรรคก้าวไกล เติบโตขึ้นประมาณ 14 ล้านเสียงจากเดิมที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรคไป ที่มีเสียงประมาณมีกว่า 6 ล้านเสียง  ดังนั้นการยุบพรรคจึงน่าจะไม่ใช่อุปสรรค 

“จึงมีความเป็นไปได้สูงจะได้เห็นภาพถึงแลนด์สไลด์ในอนาคต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธการเมืองของพรรคก้าวไกล และกลยุทธพรรคการเมืองเก่าแต่ละพรรค แต่สำหรับพรรคการเมืองใหม่คนรุ่นใหม่ต้องยอมรับว่านี้ คือ การเมืองไทย ที่จะต้องเรียนรู้”

ในส่วนพรรคเพื่อไทย แฟนคลับของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นว่า ทำนองพรรคเพื่อไทยคงอยู่ในฐานะพิจารณาว่าจะรักษาแฟนคลับพรรคเพื่อไทยอย่างไรเมื่อได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล สมมติว่าหากไม่มีพรรคก้าวไกลด้วย เพราะแฟนคลับพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลส่วนหนึ่งจะเป็นคนเดียวกัน และส่วนหนึ่งแฟนคลับพรรคก้าวไกลที่โยกมาจากพรรคเพื่อไทย หรือจากสีแดงมาเป็นสีส้ม

“เพราะจะมีสำหรับในอนาคตการเลือกตั้งต่อไป แฟนคลับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างวิตกหากเกิดพลาดพลั่งจะเกิดผลลัพท์เป็นพรรคต่ำร้อยได้ในอนาคต” แฟนคลับ ระบุ

ทาง ดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่จรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง 3 สมัย ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ปรึกษารักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีมุมมองในส่วนตัวว่า การเมืองวันนี้ประชาชนต่างตื่นตัวทั้งแต่ยุวชน เยาวชน ฯลฯ จากการเคลื่อนไหวสื่อสารข่าวสาร ข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือกันมากมาย เพราะทุกคนต่างมีโทรศัพท์มือถือ

โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ พรรคก้าวไกลที่มีแนวนโยบายเปลี่ยนประเทศแบบพลิกฝ่ามือที่ปราศจากกลยุทธ จนส่งผลให้คนวัย 45-50 ปี ถึงกับวิตกจึงพลิกผันไปกับการเมืองเก่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมกัน เพราะว่าจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ตลอดไปถึงกลุ่มทุนใหญ่ ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือ จึงเป็นเรื่องใหญ่และมีความเสี่ยงสูง ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วก็ตาม แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปยืดหยุ่นละมุลละม่อมจึงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

ดร.สมบัติ มีมุมมองส่วนตัวอีกว่า และสำหรับการเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นยุคสุดท้ายของการเมืองเก่าที่สืบทอด อำนาจเพราะในระย 8-9 ปี ปากเสียงของประชาชนทั่วประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความยากลำบาก เมื่อพิจารณาแล้วเป็นคำพูดพูดที่ถูกต้องของประชาชนจะดีมองแต่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ได้ทั่วถึงในโครงการสร้างของทุนทั่วไป และส่วนประชาชนเองก็มีผลตอบแทนเช่นกันถึงแม้ว่าจะเป็นส่วนเล็กน้อยก็ตาม ประชาชนจึงได้สัมผัสในความเป็นนจริงที่เกิดขึ้น  

“ในระยะ 8-9 ปี ประชาชนเกิดความกดดันมากต่อกลุ่มการเมืองเก่า ประชาชนแฟนคลับจึงพลิกผันไปยังก้าวไกลอย่างขนาดใหญ่ จึงได้แฟนคลับไปปริมาณมาก ทั้งที่ก้าวไกลเองอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ที่มีกฎหมายหลายเรื่องที่จะให้ทำแต่กลับเลือกที่จะทำบางเรื่อง สาเหตุเพระว่ายังไม่มีประสบการณ์”

ดร.สมบัติ  มีมุมมองต่ออีกว่า  แต่ถึงอย่างไรเวลานี้พรรคเพื่อไทย จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เรื่องที่วิตกว่าจะเกิดวิกฤติศรัทธาต่อแฟนคลับหากว่าขาดพรรคก้าวไกลแล้ว แต่เชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลจะถอดแบบนโยบายการปฏิรูปของพรรคก้าวไกลบางเรื่องมาใช้ในบางเรื่องและปฏิรูปในบางเรือง และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เป็นอันดับแรกก่อนอื่นอย่างขนานใหญ่ เพราะเป็นนโยบายของพรรคและจะทำได้ด้วยเพราะมีอำนาจแล้ว  และอีกทั้งแฟนคลับพรรคเพื่อไทยจะเป็นรากหญ้าส่วนใหญ่ของประเทศจึงไม่น่าวิตก สามารถจะมั่นใจได้ว่าจะได้แฟนคลับ และจะไม่เปลี่ยนแปลง และอาจจะโยกกลับมาอีกต่างหาก

“เพราะพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในแถวหน้ามาตลอดไม่ได้รองใคร”

ดร.สมบัติ ยังมีมุมมองอีกว่า สำหรับการเมืองเก่านั้นเพื่อจะรองรับความเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ทั้งนี่ก็จะขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพรรค  กรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค  ฯลฯ แต่มีความเชื่อมั่นแต่ละพรรคการเมืองเก่าต่างได้รับบทเรียนการเลือกตั้งที่ผ่านมา และได้ถอดบทเรียนการเมืองที่ผ่านมาได้แล้ว

“ควรต้องมีการแก้ไขปรับปรุงกันอย่างขนานใหญ่ที่จะรุกไปกับการเมืองใหม่ที่จะต้องอยู่ร่วมกันได้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย  และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม นักการเมือง ฉะนั้นแล้วหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะสูญพันธุ์ได้” ดร.สมบัติ กล่าว. 

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ