ทลายเครือข่าย"โครตเสี่ยง V7”ค้าปืน-เครื่องกระสุน ออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้าน

ทลายเครือข่าย"โครตเสี่ยง V7”ค้าปืน-เครื่องกระสุน ออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้าน





ad1

กวาดล้างเครือข่ายพ่อค้าปืน-กระสุนปืนออนไลน์ เครือข่าย “โคตรเสี่ยง V7” พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท ตรวจยึดกระสุนปืนกว่า 30,000 นัด มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท 

สืบเนื่องจากนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ให้ความสำคัญกับการกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนและกระสุนปืนผิดกฎหมายทางช่องทางออนไลน์

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1)นายศัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี สามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักภายใน ซอยลาดพร้าว 87 แขวงวังทองหลาง เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร (พ่อค้าปืนและกระสุนปืน) โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจะดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อไป

2)นายนิพนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (ลูกค้าที่เคยซื้อปืนและกระสุนปืน) โดยกล่าวหาว่า “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

3)นายวีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าเสม็ด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ลูกค้าที่เคยซื้อกระสุนปืน) โดยกล่าวหาว่า “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนหลากหลายขนาด (ตั้งแต่สำหรับอาวุธปืนพกสั้นไปจนถึงกระสุนสำหรับอาวุธสงคราม) จำนวนกว่า 30,000 นัด

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณพฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. นำโดย พ.ต.ท.ปิยเดช แก้วแฝก สว.กก.1 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย จากการสืบสวนพฤติการณ์พบว่า เมื่อมีผู้สนใจและแจ้งความต้องการที่จะสั่งซื้ออาวุธปืนหรือกระสุนเข้าไปในกลุ่ม ก็จะมีแอดมินคอยทำการดึงผู้ที่สนใจเข้ากลุ่มไลน์ ที่มีชื่อว่า “บริษัทโคตรเสี่ยง V.7” (ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 300 ราย) ภายในกลุ่มมีการประกาศขายอาวุธปืนไม่มีทะเบียน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืนกันอย่างผิดกฎหมาย

ซึ่งเป็นการซื้อขายกันอย่างเปิดเผย โดยจากการล่อซื้อของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า การซื้อขายผ่านกลุ่มไลน์ดังกล่าวผู้ซื้อสามารถได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจริงตามที่สั่งซื้อ ทำให้กลุ่มไลน์ดังกล่าวได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่สนใจสั่งซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืนทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. จึงได้เร่งรัดทำการสืบสวนหาตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มไลน์ดังกล่าว และจากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่าในห้วงระยะเวลา 2 ปี

ที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนจากการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มลูกค้าที่สั่งซื้อกระสุนปืนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุประมาณ 15-20 ปี ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล     

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. และ บก.ปอศ. กว่า 40 นาย ทำการตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนครศรีธรรมราช ในจุดที่คาดว่ามีการเก็บครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายทางออนไลน์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1)เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลอาญาพระโขนง ที่ 138/2566 ลงวันที่ 20 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 53 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พบ นายพีรดนย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารในการรับโอนเงินค่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขยายผลหาความเชื่อมโยงกับเครือข่ายฯต่อไป

 2)เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 870/2566 ลงวันที่ 20 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 87 แขวงวังทองหลาง เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จับกุม นายศัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี (เชื่อว่าเป็นผู้ที่ทำหน้าที่จัดจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายผ่านทางช่องทางออนไลน์) ครอบครองอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (เป็นการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต) และเครื่องกระสุนปืนหลากหลายประเภท ตั้งแต่กระสุนสำหรับอาวุธปืนพกสั้นไปจนถึงกระสุนปืนอาวุธสงคราม จำนวนกว่า 30,000 นัด (ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต) 

3)เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 139/2566 ลงวันที่ 20 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จับกุม นายนิพนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี (เป็นลูกค้าที่สั่งซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืนผ่านทางออนไลน์) เป็นผู้ครอบครองเครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 18 นัด และ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 special จำนวน 6 นัด

4)เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 335/66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าเสม็ด อ.ชะอวดจ.นครศรีธรรมราช จับกุม นายวีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี (เป็นลูกค้าที่เคยสั่งซื้อกระสุนปืนผ่านทางออนไลน์) เป็นผู้ครอบครองเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด 

โดยผู้ต้องหาส่วนหนึ่งให้การรับสารภาพว่าเครื่องกระสุนปืนที่มีไว้ในครอบครอง ตนเองได้สั่งซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยส่วนใหญ่เป็นช่องทางโซเชียลมีเดียที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ในขณะที่ผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านทางช่องทางออนไลน์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่า ลูกกระสุนปืนกว่า 30,000 นัด ตนไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่าย แต่มีไว้ใช้เอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. จะได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ นำไปชยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป