โพลเผยดัชนีความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ-สังคมภาคใต้เดือน ก.ค.ทรุดทุกระดับ

โพลเผยดัชนีความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ-สังคมภาคใต้เดือน ก.ค.ทรุดทุกระดับ





ad1

โพลเผยผลดัชนีความเชื่อมั่น “ภาคใต้”ต้องการรัฐบาลใหม่ ช่วยลดค่าพลังงานไฟฟ้า ต้องการเบี้ยบำนาญ เพิ่มสวัสดิการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ระบุ รู้พุงรู้ใส้ การเมือง ชี้ เยาวชนมีอิทธิพลทางการเมือง สามารถสั่งการพ่อแม่ เครือญาติไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566 ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนกรกฎาคม (44.70) ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน (45.10) และเดือนพฤษภาคม (46.40)

โดยดัชนีที่มีการปรับตัวลดลง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ การลดลงของหนี้สิน การแก้ปัญหายาเสพติด และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาหนี้สินสะสมของภาคครัวเรือนและธุรกิจที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการใช้จ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นในการฟื้นฟูธุรกิจหลังจากโควิด-19

ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง

นอกจากนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการจึงไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม และขาดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมีน้อย ทำให้ประชาชนมีรายได้น้อยไม่เพียงพอกับภาระหนี้สินที่มีอยู่

อีกทั้งค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งรายได้เท่าเดิมหรือลดลง จึงเพิ่มความเสี่ยงให้ประชาชนกลุ่มนี้อาจจะต้องก่อหนี้สินเพิ่มขึ้น เพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
ประชาชนมองว่าสถานการณ์การเมืองช่วงนี้มีความไม่แน่นอนมาก โดยมองว่านักการเมืองในปัจจุบันแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายก็มีความต้องการผลประโยชน์ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถแบ่งปันผลประโยชน์ได้อย่างลงตัว โดยมีนักการเมืองส่วนหนึ่งจ้องแต่จะกอบโกยผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพรรคพวก มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน และมักใช้ประชาชนเป็นข้ออ้าง
ซึ่งประชาชนในยุคปัจจุบันนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้รู้ไส้รู้พุงของนักการเมืองเหล่านี้เป็นอย่างดี โดยประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศอย่างรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและช่วยเหลือปัญหาปากท้องซึ่งเป็นวิกฤตอยู่ในขณะนี้

“ถึงแม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะมีความล่าช้ามาก แต่ประชาชนคาดหวังว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 และทำให้ภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศรู้ทิศทางนโยบายในการพัฒนาประเทศ เกิดความเชื่อมั่น และกล้าตัดสินใจในการลงทุน”
โดยรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศควรเร่งดำเนินนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดราคาพลังงาน การเพิ่มสวัสดิการแบบครบวงจร การลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เป็นต้น

จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับความคาดหวังและความต้องการ

1. ประชาชนมีความกังวลต่อการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่ล่าช้า เพราะส่งผลให้ภาคธุรกิจและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ทำให้ต้องชะลอการลงทุน รวมถึงผู้บริโภคก็ชะลอการใช้จ่ายเช่นกัน ทั้งนี้ประชาชนยังเฝ้ารอความชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่ โดยคาดหวังให้รัฐบาลใหม่เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และขอให้จัดตั้งได้อย่างรวดเร็ว

2. มีความกังวลต่อการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วทางการเมือง ซึ่งหากไม่เป็นไปตามที่ประชาชนส่วนหนึ่งคาดหวังไว้ อาจทำให้เกิดมวลชนที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลทำการประท้วง ลงถนนเพื่อแสดงออก และอาจมีมวลชนบางกลุ่มใช้ความรุนแรงจนเกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

2. ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางจำนวนมากยังมีปัญหาหนี้สิน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตลอดจนยังเกิดหนี้ใหม่ในช่วงนี้ จนกลายเป็นภาระหนี้สินครัวเรือนสะสม
ทั้งนี้ประชาชนต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยการกำหนดเป็นนโยบายช่วยเหลือปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดปัญหาหนี้สินเรื้อรังของครัวเรือนแบบยั่งยืน
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 34.30 และ 35.60 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 30.50และ 36.10 ตามลำดับ 

ในขณะที่ความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 35.80 34.60 และ 34.30 ตามลำดับ
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ และต้องการให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ 1 การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ 2 การช่วยลดค่าไฟฟ้าและพลังงาน 3 การเพิ่มบำนาญผู้สูงอายุ 4 การเพิ่มสวัสดิการประชาชน และ 5 การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย.

ทางด้าน  ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า สถานการณ์การเมืองวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก จากการหารือระหว่างผู้บริหารโรงเรียนต่างบอกไปในทิศทางเดียวกันว่าเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาได้ตื่นตัวการเมืองใหม่คนรุ่นใหม่มาก สาเหตุจากการสื่อสารตามแฟลตฟอร์มทางโทรศัพท์มือถือ

“อย่างเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเยาวชนบุตรหลาน ได้มีคำสั่งทางไลน์มาถึงผู้ปกครอง พ่อ แม่ แม่เถ้าและเครือญาติ ขอร้องให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและให้เลือกคนรุ่นใหม่  แม้กระทั้งผมเองบุตรเรียนหนังสืออยู่ที่ต่างจังหวัด ก็มีไลน์ขอมา”

เขายังกล่าวอีกว่า จากเยาวชนที่มีการตื่นตัวทางการเมืองจึงส่งผลต่ออนาคตว่าการเมืองน่าจะเกิดการเปลี่ยนมากคนุร่นใหม่พรรคคนรุ่นใหม่จะมีเปรียบมาก เพราะว่ากลุ่มเยาวชนจะเติบโตขึ้นทุกปีนับล้านคนจาก 13 ปี 14 ปี 15 ปี 16 ปี 17 ปีและ 18 ปีในระยะ 4-5 ปี จำนวนหลายล้านคนที่จะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

“และเป็นที่วิตกจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เยาวชนที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและที่ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ได้ขอร้องให้ผู้ปกครอง เครือญาติไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้เลือกคนคนรุ่นใหม่การเมืองใหม่ แต่เมื่อคนรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นรัฐบาล จะสะท้อนออกมาทิศทางไหน” ผู้บริหารโรงเรียน กล่าว

ทางด้าน แฟนคลับพรรคภูมิใจไทย จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ติดตามการเมืองชั่วโมงต่อชั่วโมงในการจัดตั้งรัฐบาล  แฟนคลับการเมืองต่างคาดว่าเมื่อพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นผู้นำจัดรัฐบาลแล้วมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นผู้จัดต่อ
“พรรคก้าวไกล ถึงแม้จะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลหรือร่วมเป็นรัฐบาลก็ได้ชนะใจแฟนคลับแล้ว เพราะได้ส่งมอบต่อให้พรรคเพื่อไทย จากถูกกีดกันถูกปฏิเสธ แล้วหากถูกสลัดออกมาเป็นฝ่ายค้านจะยังเป็นบวกเพิ่มอีก เพราะศักยภาพกระบวนการทำงานตรวจสอบ แล้วจะส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองมาก  จะเห็นขณะนี้แฟนคลับหลายพรรคต่างโยกย้ายไปสนับสนุนแล้ว”.

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ