‘พริตตี้สาว’ ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกไฮโซหนุ่มขู่ฆ่า-ซ้อมน่วม ไม่ยอมเลิก ลั่นมีเงินจะทำอะไรก็ได้

พริตตี้สาววัย 29 ปี หอบร่างเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด ให้พาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตแฟน "ไฮโซหนุ่ม" ขับรถหรูแม็คลาเรน และเป็นเจ้าของโชว์รูมบิ๊กไบค์ ย่านลำลูกกา ขู่ฆ่า ทำร้ายน่วม บอกมีเงินจะทำอะไรก็ได้

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “Nithiwarin Rithtanansak” ได้มีการโพสต์ข้อความและภาพที่ถูกทำร้ายร่างกาย โดยระบุข้อความว่า “ขอประจานคนแบบนี้หน่อย อดทนมาตลอด 3 ปี ทำร้ายร่างกายผู้หญิง จับได้ไม่รู้ต่อกี่ครั้งที่เขามีคนอื่น ตลอดเวลาทำร้ายร่างกายผู้หญิงทุกคนที่เข้าไปอยู่ในชีวิตเขา ไม่เคยให้ความรักกะใครได้ ทุบตี ด่าทอสารพัด ใช้ความรุนแรง เราขอจบดีๆ เขาไม่ยอมจบ ข่มขู่ สารพัด จะจ้องตามทำร้ายชีวิตคนอื่นไปหมด เขาไม่มีสิทธิมาทำร้ายคน ยิ่งเป็นผู้หญิง ตลอดเวลาคอยอยู่เคียงข้างเขาตลอด เป็นธุระให้ทุกอย่างทำให้เขาทุกอย่าง เขาอยากให้เรากลับไปใช้ชีวิตแบบเป็นทาส เสื้อผ้าของใช้เราเขาก็ขโมยของเราไปหมด ตามราวีไม่เลิก ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขาก็พาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน ตอนนี้เราต้องอยู่แบบหวาดระแวง ล่าสุดเมื่อคืน ได้เกิดเหตุขึ้น เขามาดักรอทำร้ายร่างกายเราที่งานวันเกิดเพื่อน ข่มขู่เราว่า “มึงกับกูต้องตายกันไปข้าง” ได้ขโมยแหวนกับข้อมือ Cartier ของเราไปด้วย ตอนนี้เรากลัวมากจริงๆ เขาพูดว่าเขามีเงินทำอะไรก็ได้ บุคคลนี้ ขายบิ๊กไบค์ อยู่ลำลูกกา คลอง 3 ขับรถแม็คลาเรน สีเขียวม่วง อยากขอร้องผ่านสืบให้ช่วยหยุดพฤติกรรมคนแบบนี้”

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. น.ส.นิธิวริน ฤทธิ์ธนันศักดิ์ หรือ น้องหมวย พริตตี้สาววัย 29 ปี ได้เดินทางขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีเสี่ยเจ้าของร้านบิ๊กไบค์ ที่ทำร้ายร่างกาย ซ้ำยังขู่ฆ่า

น.ส.นิธิวริน กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ามาขอให้ทางเพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือ เพราะถูกอดีตแฟนคนนี้คอยตามราวีไม่ยอมเลิกรา ซ้ำมีการขโมยสิ่งของเสื้อผ้าและของมีค่าของตนไป ซึ่งอดีตแฟนคนนี้คนกับมานานกว่า 3 ปี เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลามีปัญหาก็จะตี หรือทำร้ายเราตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกไปกินข้าวนอกบ้านหรือออกไปหาเพื่อน ตัดความอิสระของตนหมดทุกอย่าง บางครั้งเพื่อนโทรฯ มา ก็จะเอามือถือไปบล็อกเบอร์เพื่อนไม่ให้เราเจอใคร

แต่เรากลับจับได้ว่า ไปมีคนอื่น เขาก็พูดได้แต่ว่าให้เราอยู่เฉยๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่กันมา ปล่อยให้ตนอยู่คนเดียว ไม่เคยมาดูแลเหมือนคนที่เป็นแฟนกัน ตังเองเหมือนใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว แม้กระทั่งช่วงที่ตนมีเรื่องทะเลาะวิวาท โดยมีผู้หญิงของเขาเข้ามาทำร้ายตนถึงในร้าน จึงทำให้ตนต้องออกมาเช่าบ้านอยู่ ที่ผ่านมาเคยพยายามเลิกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมเลิก โดยให้เหตุผลว่ายังรักเราอยู่

เหตุการณ์ที่ตนทนไม่ไหว จนต้องโพสต์เรื่องราวไว้ เป็นวันที่ตนอยู่ในงานวันเกิดเพื่อนที่ร้านเหล้า ด้วยที่ตนอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนปกติ จึงได้ลงสตอรี่ไว้ว่าอยู่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แต่เขาทักมาว่าอยู่ที่นี่เหรอ เจอกูแน่ ตนจึงรีบย้ายร้านแล้วได้บอกเพื่อนว่าเหมือนกับเขาจะตามมา จึงรีบย้ายไปร้านที่ 3 แต่ไม่รู้ว่าเขาตามไป ซึ่งตอนที่ตัวเองจะขึ้นรถ เขาก็มาดักที่รถ พอเจอหน้า เขาก็ตบเราเลย ที่ผ่านมาเขาก็ข่มขู่มาโดยตลอดว่าเราจะทำอะไรก็ทำ เขามีเงิน เขาจะทำอะไรก็ได้ ถ้าอยากจะสู้กับเขา เขาก็จะสู้

ในวันที่ออกมา ตนไม่ได้เอาอะไรออกมา วันที่ออกมาล่าสุด ก็บังคับให้ถอดสร้อยข้อมือกับแหวนให้เขา ถ้าไม่ถอดก็ไม่ต้องไป แล้วง้างมือจะตบ เลยต้องถอดให้เขา และอ้างว่าที่ต้องเอาของไว้เพื่อไม่ให้ตนไปไหน หรือถ้าจะไป ต้องไปแต่ตัว พอเราจะรับงานก็ห้ามไม่ให้ไปรับ ได้เงินจากเขามากินมาใช้นิดหน่อย ไม่เคยให้อะไรกับตนเลย

หลักเกิดเหตุ อดีตแฟนพยายามเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่เราบอกไปว่า ขอพูดตัวกลางได้ไหมเพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก เพราะที่ผ่านมาเคยถูกข่มขู่ว่า ถ้าเราจะเลิกกับเขา เราจะต้องตายจากกันไปข้างถึงจะเลิกยุ่ง เราอดทนและเก็บความรู้สึกมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆ

ด้านนายเอกภพ ระบุว่า พฤติกรรมแบบนี้ ผู้ชายถ้าได้ทำร้ายผู้หญิงแล้วมันไม่เลิกทำร้ายอย่างแน่นอน มีแต่จะกลับมาทำร้ายที่รุนแรงขึ้น ซึ่งน้องเขาถูกทำร้ายหลายท้องที่ หลังจากนี้ตนจะประสานไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคูคต และผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เพื่อเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง ฝากไปถึงไฮโซหนุ่มด้วยว่า คุณทำอะไรลงไป และรู้แก่ใจว่าทรัพย์สินที่คุณได้มา ได้มาอย่างไร คงไม่ต้องให้ผมไปสาวออกมาถึงการได้มาของเงิน ว่าจะได้มาโดยชอบหรือไม่ชอบนั้น หลังจากนี้คงมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอยู่แล้ว และถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับน้องเขา เดี๋ยวผมจะขุดขึ้นมาเอง.... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2583200/