ฉลองครบรอบ 75 ปีของวันกองทัพแห่งชาติคะยา ท่ามกลางไฟสงครามระอุ

ฉลองครบรอบ 75 ปีของวันกองทัพแห่งชาติคะยา ท่ามกลางไฟสงครามระอุ





ad1

กองทัพทหารกะเหรี่ยงคะยา KA จัดงานฉลองครบรอบ 75 ปี วันกองทัพแห่งชาติคาเรนนี ท่ามการสงครามระหว่างทหารกะเหรี่ยง  KA กับทหารรัฐบาลเมียนมา ที่ยังคงสู้รบไม่หยุดหย่อน

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566  กองทัพทหารกะเหรี่ยงคะยา หรือ Karenni Army / KA และ พรรคชาติคะยาก้าวหน้า Karenni National Progressive Party / KNPP ได้จัดทำพิธีวันสถาปนากองทัพกะเหรี่ยงคะยา เนื่องในโอกาศครบรอบ 75 ปี  โดยได้มีการจัดพิธีขึ้นที่ กองบัญชาการทางทหาร ฐานดอยยามู ตรงข้ามบ้านแม่ส่วยอู่ หมู่ 8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมี พันเอกพงไหน่ เสนาธิการกองทัพกะเหรี่ยงคะยา KA เป็นประธานในพิธี และมีนายทหารระดับสูงของ กองทัพกะเหรี่ยงคะยา เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ประกอบด้วย พันเอกแอมุย ผู้บัญชาการกองบัญชาการทางยุทธวิธี ฐานดอยยามู , พันโท แมแหร่ ผู้บังคับกองพันที่ 3 กองกำลัง KA ในพิธีดังกล่าว ได้มีการอ่านสาส์น ของ พลจัตว่าอ่องเมี๊ยะ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพกะเหรี่ยงคะยา ทั้งนี้มีสมาชิกทหารและพลเรือนของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา เข้าร่วมงานจำนวน 120 คน และมีกองกำลังทหารคอยรักษาความปลอดภัยอีกไม่ต่ำกว่า 300 นายในพื้นที่บริเวณโดยรอบ

สำหรับสาส์น  ดังกล่าวมีใจความว่า คำกล่าวจากพลตรี อ่องเมี๊ยะ ผู้บัญชาการทหารกองกำลังกะเหรี่ยงแดง/คะยา สำหรับวันกองทัพแห่งรัฐกะเหรี่ยงแดง/คะยา ครบรอบ 75 ที่บรรจบมาถึงอีกรอบในวันที่ 17 สิงหาคม 2566

สิ่งที่ต้องการบอกกล่าวกับผู้บังคับบัญชา กำลังพลของกองทัพรัฐกะเหรี่ยงแดง/คะยา ผู้บังคับบัญชา กำลังพลของ KNDF เนื่องในวันครบรอบ 75 ปี วันกองทัพรัฐกะเหรี่ยงแดงในวันที่ 17 สิงหาคม 2566  กองทัพรัฐกะเหรี่ยงแดง/คะยาได้ก่อตั้งขึ้นมามีอายุครบ 75 ปีเต็มแล้ว เริ่มต้นการก่อตั้งด้วยนายทหาร 7 คนกำลังพล 7 คนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2491 (1948) ได้จัดตั้งขึ้นโดยให้ขึ้นตรงต่อกระบวนการปฏิวัติต่อสู้ของกะเหรี่ยงแดง / คะยา จวบจนปัจจุบันได้อยู่ในสังกัดของรัฐบาลรัฐกะเหรี่ยงแดง/คะยา การปฏิวัติต่อสู้เพื่อล้มล้างระบบเผด็จการทหาร หรือต่อสู้เพื่อให้สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนด้วยตนเอง ถ้าหากทุกฝ่ายังอยู่ภายใต้คำว่ากะเหรี่ยงแดงย่อมจะทำให้สามารถสร้างสามัคคีอยู่ร่วมกันต่อไปได้ ซึ่งขณะนี้ได้ประสบกับความสำเร็จบ้างแล้ว แต่ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไม่ประมาท หรือ ชื่นชมฝ่ายศัตรู เสียอยู่อย่างคือ ชนเผ่ากะเหรี่ยงแดงของพวกเรา เมื่อทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งประสบผลสำเร็จ มักชอบอวดอ้าง และลืมตัว อยากจะขอเตือนสติทุกคนว่า อย่าได้ลืมตัว

สถานการณ์ ณ เวลานี้ หน่วยป้องกันชาติกะเหรี่ยงแดง หน่วยป้องกันอำเภอท้องถิ่น รวมทั้งกองกำลังกะเหรี่ยงแดง เป็นกองกำลังที่ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจและสามารถพึ่งพาอาศัยได้ เมื่อได้รับสถานการณ์เป็นตัวแทนของรัฐรัฐหนึ่ง เขตเขตหนึ่ง ท้องถิ่นๆ หนึ่งแล้วต้องทุ่มเทความพยายามต่อไป ขอให้รำลึกและเห็นแก่วิญญาณของเพื่อร่วมรบต่อสู้ เห็นแก่ประชาชนที่ต้องสูญเสียชีวิต  ขอให้เห็นแก่ประชาชนที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียเมือง สูญเสียหมู่บ้านที่อยู่ สูญเสียความเป็นอยู่ ขอเตือนสติโปรดอย่าได้หลงเชื่อนักการเมืองฉวยโอกาส นักศาสนาฉวยโอกาส
  
ชนเผ่ากะเหรี่ยงแดงของพวกเรานั้น ถึงแม้จะสามารถทนต่อเภทภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถทนเภทภัยทางการเมือง เพราะฉะนั้นกระบวนการปฏิวัติจะต้องเป็นผู้นำที่ถูกต้องสำหรับประชาชน สิ่งที่ต้องการบอกกล่าวเป็นกรณีพิเศษคือ ช่วยให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนด้วย เนื่องจากชนเผ่าพม่าส่วนใหญ่ได้เข้าร่วมกระบวนการปฏิวัติกันบ้างแล้ว ย่อมทำให้เป็นกำลังของการปฏิวัติ เชื่อมั่นเหลือเกินว่าจะต้องประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน

อยากให้ทุกฝ่ายช่วยผลักดันให้เกิดนายทหารที่ดีให้มีมากขึ้น การจะหาอาจารย์ในกะเหรี่ยงแดงของพวกเรา พบแต่ลูกศิษย์เท่านั้น แต่ที่อื่นๆ พบแต่อาจารย์ มองหาลูกศิษย์ค่อนข้างยากซึ่งถือว่ามีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าหากการปฏิวัติไม่ประสบผลสำเร็จ จะต้องดิ้นรนต่อไปในสภาพเยี่ยงทาสต่อไปเจ็ดชั่วโคตร เพราะฉะนั้น จึงอยากขอให้ละเว้นประโยชน์ส่วนตัวชั่วคราว ขอให้ผู้บังคับบัญชาทำหน้าที่ช่วยแนะนำสั่งสอน อยากให้มีความสามัคคีปรองดองระหว่างกันให้มากๆ 
  
ผมขอเป็นตัวแทนของพวกเราทั้งหมดแสดงการขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับฝ่ายนิยมกระบวนการปฏิวัติทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ พ่อแม่พีน้องประชาชน องค์กรทางสังคมต่างๆ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนด้วยใจจริงแก่กองกำลังกะเหรี่ยงแดง/KNDF/KPDF 
   
สุดท้ายที่อยากพูดให้กำลังใจคือ รัฐกะเหรี่ยงแดง ถึงแม้จะเป็นรัฐเล็กๆ และถูกกองกำลังฝ่ายศัตรูเสริมเข้าสู่พื้นที่อย่างมากมายก็ตาม สุดท้ายต้องสูญเสียขบวนล้มตายอยู่ดี เหตุที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ไม่ว่าเฉพาะปัจจุบัน หากแต่เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ยุคพระเจ้าอโนระทา ในประวัติศาสตร์ของประเทศเมียนมาได้เขียนไว้ว่า พระเจ้าอโนระทา ถูกควายเผือกขวิดจนสิ้นพระชน แต่ไม่ได้เขียนระบุไว้ว่าถูกความเผือกขวิด ณ ที่แห่งใด ที่แน่ๆ คือ พระเจ้าอโนระทาถูกความเผือกขวิดจนสิ้นพระชนในรัฐกะเหรี่ยงแดงนั้นเอง


  
พวกเราไม่ใช่ทหารรับจ้าง พวกเราคือทหารทำงานเพื่อชาติ ดังนั้นจึงต้องมีกฎเกณฑ์ระเบียบที่มากกว่าทหารรับจ้าง ขอให้เคารพกฎ ปฏิบัติตามคำสั่ง ขอให้มีระเบียบ ช่วยดูแลปกป้องประชาชนด้วย คำว่าการปฏิวัตินั้น “ผู้สมควรถูกฆ่าก็ต้องฆ่า ผู้สมควรเสียชีวิตก็ต้องเสียชีวิต”ซึ่งเป็นธรรมชาติของงานในกระบวนการปฏิวัติ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าใครคือใคร จึงจะสามารถแยกแยะเพื่อนหรือศัตรู เป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาต้องไม่ลังเล มีความพังเพยเมียนมาบทหนึ่งว่า “เทวดายังไม่สามารถสนองความต้องการของมนุษย์ได้” ซึ่งผู้บังคับบัญชาส่วนใหญ่ย่อมจะทราบและมองเห็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของอีกฝ่ายในพื้นที่สมรภูมิรบ / พลจัตวา อ่องเมี๊ยะ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองกำลังกะเหรี่ยงแดง (KA/KNDF)
สำหรับการจัดงานวันครบรอบวันกองทัพ หรือวันสถานปนาวันกองทัพกะเหรี่ยงคะยา KA มีการจัดพิธีอย่างเรียบง่ายและกระชับ เนื่องจากเกรงว่าทางทหารเมียนมา จะใช้อากาศยานมาโจมตีในงานพิธีดังกล่าว แต่ก็ไม่เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด

สำหรับกองทัพทหารกะเหรี่ยงคะยา / คาเรนนี ( ในภาษาอังกฤษ ) ได้มีการปฏิวัติลุกขึ้นมาต่อสู้ กับรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อเอกราชของชาวคะยาและรัฐคะยา มาแล้วถึง 75 ปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีการต่อสู้กันอย่างรุนแรงในทุกพื้นที่ในรัฐคะยา และ บริเวณที่ติดแนวชายแดนไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน