"จ่าคิงส์ สะพานใหม่"พาเหยือร้องกองปราบฯรถบรรทุกชนเจ็บสาหัสตาบอด พูด เดินไม่ได้คดีไม่คืบ

"จ่าคิงส์ สะพานใหม่"พาเหยือร้องกองปราบฯรถบรรทุกชนเจ็บสาหัสตาบอด พูด เดินไม่ได้คดีไม่คืบ





ad1

"จ่าคิงส์ สะพานใหม่"พาเหยื่อถูกรถบรรทุกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดตาบอด พูด-เดินไม่ได้ คดีไม่คืบ ร้องกองปราบฯ คู่กรณีมีอิทธิพลหลังคู่กรณีบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วย นายธนพล เย็นรัมย์ อายุ 22 ปี  ที่ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุกขนเหล็กของบริษัทเอกชนรายใหญ่ตัดหน้า ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 จนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ไม่สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ พร้อมครอบครัว เข้าร้องเรียน พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และ พลตำรวจตรีมนตรี เทศขัน ผู้การกองปราบปราม ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดี หลังผ่านมากว่า 1 เดือน แต่กลับได้รับการเยียวยาจากคู่กรณีเพียงเงิน 10,000 บาท

น.ส. ปวีณา ขันธวงศ์  แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า แฟนหนุ่มของตนประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างนั้นขับผ่านปั้มน้ำมัน มีรถบรรทุกขับออกมาจากปั้ม เพื่อจะเลี้ยวขวา แต่เพราะความประมาทของรถบรรทุกที่ไม่ทันสังเกตรถคันอื่นๆที่อยู่บนท้องถนน รถจักรยานต์ของแฟนตนที่อยู่ในทางเอกจึงวิ่งเข้าประสานงานกลางคัน ได้รับบากเจ็บสาหัส กระโหลกศีรษะและใบหน้าแตก เลือดออกในสมอง โอกาสรอดชีวิตน้อย โดยคู่กรณีปฏิเสธอ้างว่าไม่ผิด และรถจักรยานยนต์สวนเลนมาชน และไปดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำก่อนหน้า ตนจึงไปติดตามหาพยานหลักฐานด้วยตนเอง จากคลิปกล้องวงจรปิดเพื่อนำมายืนยันว่าฝั่งตนเองไม่ผิด และถูกรถบรรทุกตัดหน้าจริง แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรม มีเพียงเงินเยียวยาจากคู่กรณีที่จ่ายให้ 10,000 บาทในวันที่เข้ารักษาตัวใน ไอซียู.

จ่าคิงส์ แตงทิม กล่าวว่า การเข้าร้องกองปราบปราม เพื่อให้ช่วยเร่งดำเนินคดีให้เป็นไปตามหลักฐาน ที่วันนี้ได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดมายื่นให้ตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการเยียวยาจาก พ.ร.บ. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จากคู่กรณี ไม่ยอมเซ็นรับในสำนวนคดี ทำให้ประกันไม่จ่ายค่าเสียหายเยียวยา เป็นเงินกว่า 5 แสนบาท และมีการบ่ายเบี่ยงนัดการเจรจาในคดีถึง 5 ครั้ง ซึ่งครอบครัวผู้บาดเจ็บต้องแบกรับค่ารักษาพยายานกว่า 6 แสนบาท และตัวนายธนพลไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจากยังต้องติดเตียง ไม่สามารถพูดได้ และเดินได้ จากภาวะได้รับผลกระทบกระเทือนจากสมอง จึงต้องการไปยัง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยลงมาติดตามคดีนี้จาก สภ.สมุทรสงคราม  เพราะผู้บาดเจ็บถือเป็น 1 ในเสาหลักของบ้านในการหารายได้มาจุนเจือครอบครัว

เบื้องต้น พ.ต.ท.สุขาติ อิ่มสวัสดิ์  รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ป.ผู้รับเรื่องได้ลงมาดูอาการคนเจ็บในรถพยาบาล พร้อมสอบถามข้อมูลจากญาติคนเจ็บก่อนจะโทร.ไปประสานทางผู้กำกับ สภ.กระทุ่มแบน เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุให้เร่งรัดดำเนินคดีและให้ความเป็นธรรมกับคนเจ็บด้วย