"แชนมูการัตนัม"อดีตรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ คว้าชัยท่วมท้นผงาดนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี

"แชนมูการัตนัม"อดีตรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ คว้าชัยท่วมท้นผงาดนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี





ad1

"ธาร์แมน แชนมูการัตนัม" อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสิงคโปร์ ด้วยชัยชนะจากการเลือกตั้งอย่างขาดลอย

สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานเมื่อที่ 2 กันยายน 2566 ว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสิงคโปร์ครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี ชัยชนะตกเป็นของ "ธาร์แมน แชนมูการัตนัม" อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของพรรคกิจประชาชน (พรรครัฐบาล) ที่ลาออกก่อนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง

โดเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ประชาชนชาวสิงคโปร์ จำนวนมากต่างพากันไปยังคูหากากบาทเลือกตั้งซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองล้วนจับตาไปในทิศทางของพรรครัฐบาล ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะครบกำหนดภายในปี 2568 หรืออาจเป็นตัวบ่งชี้ความไม่พอใจหลังเกิดเรื่องอื้อฉาวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งรวมถึงการสอบสวนการทุจริตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และการลาออกของสมาชิกสภานิติบัญญัติ 2 คนจากเรื่องชู้สาวจะเลือกพรรคฝ่ายตรงข้าม

แต่ผลคะแนนเสียงที่ออกมา ฝั่งรัฐบาลที่ปกครองประเทศมาอย่างยาวนาน ได้รับคะแนนไปมากกว่าสองในสามของคะแนนเสียงทั้งหมดเหนือคู่แข่งอีก 2 คน

แชรมูการัตนัม กล่าวในสุนทรพจน์ว่า "ผมรู้สึกถ่อมตัวกับทุกคะแนนเสียงที่ได้มาในครั้งนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าจะไม่เป็นเพียงแค่การเลือกตัวผมเท่านั้น แต่ยังเป็นการโหวตเพื่ออนาคตของสิงคโปร์ด้วย"โดยแชนมูการัตนัมได้รับคะแนนเสียงมากถึง 70.4% และจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวาระ 6 ปี

ส่วนผู้สมัครที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ได้แก่ อึ้ง ก๊ก ซง วัย 75 ปี ซึ่งเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ (จีไอซี) ได้รับคะแนนเสียงไปเพียง 15.7 % ขณะที่ ตัน คิน เหลียน อดีตผู้บริหารสหกรณ์ประกันภัยยักษ์ใหญ่และเก่าแก่ของสิงคโปร์ วัย 75 ปี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้นำพรรคฝ่ายค้านหลายคน ได้รับคะแนนเสียง 13.8 %

สำหรับ บทบาทของประธานาธิบดีส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงพิธีการ แต่ก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับตำแหน่งดังกล่าว เพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบดูแลเงินสำรองสะสมของประเทศอย่างเป็นทางการ, ใช้อำนาจในการยับยั้งมาตรการบางอย่าง และสามารถอนุมัติการสอบสวนกรณีทุจริตคอร์รัปชัน