กลุ่มคนแดงอีสานร้องเพลงเชียร์ให้กำลังใจนายกเศรษฐาจะพาเป็นเศรษฐีดังกึกก้องเมืองขอนแก่น

กลุ่มคนแดงอีสานร้องเพลงเชียร์ให้กำลังใจนายกเศรษฐาจะพาเป็นเศรษฐีดังกึกก้องเมืองขอนแก่น





ad1

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตประธาน นปช.ภาคอีสาน พร้อมด้วย ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงหลายจังหวัดภาคอีสาน นำผ้าขาวม้าเดินทางมารอผูกเอวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อม คณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆที่มีกำหนดลงพื้นที่ร่วมกับนายกรัฐมนตรี ในระหว่างวันที่ 8-9 ก.ย. 2566 ที่ จ.ขอนแก่น ,อุดรธานี และ จ.หนองคาย โดยกำหนดการแรกของวันนี้คือการกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมืองขอนแก่น

โดยบรรยากาศโดยทั่วไปมีกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มนักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่ทราบข่าวการเดินทางมาของนายเศรษฐา ต่างพากันมารอต้อนรับกันอย่างเนืองแน่น ซึ่งทันทีที่นายเศรษฐา   ลงจากรถตู้โตโยต้าอัลพาสสีดำ หมายเลขทะเบียน กล-5558 อุดรธานี คนเสื้อแดงก็นำผ้าขาวม้ามาผูกเอวพร้อมกับทักทายนายกป้ายแดง พร้อมทั้งร้องเพลงให้กำลังใจว่า “นายกเศรษฐา จะพาเป็นเศรษฐี” ก่อนที่ทางนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นในวันนี้ จะเข้าไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าพ่อหลักเมือง ก่อนจะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเสื้อแดงและผู้ที่มารอต้อนรับ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเดินทางต่อไปยังเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่อำเภออุบลรัตน์ทันที

รศ.นพ.เชิดชัย กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงจากหลายจังหวัดในภาคอีสานเตรียมผ้าขาวม้ามาผูกเอวนายกรัฐมนตรีเพราะ วันนี้การเมืองไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย ต้องบอกก่อนว่าก่อนมีรัฐบาลทุกคนว้าวุ่น ภาษาหมอเรียกว่าประสาทจะรับประทาน เพราะทุกวันนี้มีกระแสข่าวต่างๆนานาออกมามากมายจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตั้งรัฐบาลแบบนั้น ตั้งรัฐบาลแบบนี้ ชาวบ้านที่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยและไม่เห็นด้วย ต่างรู้สึกโล่งทันที ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทำให้เห็นว่าปัญหาในประเทศไทนต้องมีเวลาสิ้นสุด ในภาวะบ้านเมืองที่มีรัฐธรรมนูญประหลาดๆจึงทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามครรลองที่ควรจะเป็น และทำให้มองเห็นอีกอย่างคือต้องอดทนจริงๆถึงจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงมา คือเปลี่ยนรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน

"โครงสร้าง ครม. ชุดนี้ เท่าที่ดูก็พอยอมรับได้เพราะเป็นรัฐบาลพันธุ์ผสมหรือจะผสมพันธุ์อะไรก็แล้วแต่แต่ตนเองไม่เรียกคาบเพราะเป็นพันธุ์ผสมจริงๆ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เสียมากมายอะไรมีทั้งหมด 141 เสียงเป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นก็ต้องเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย เผื่อไม่ให้เกิดปัญหาและสามารถขับเคลื่อนประเทศไปต่อได้ และแต่ละพรรคที่เสนอมาเราก็ต้องให้ให้เกียรติอาจจะพอใจบ้างหรือไม่พอใจบ้างก็เป็นเรื่องปกติ แต่มั่นใจภายหลังจากการทำงาน 6เดือนนี้จะพิสูจน์ได้ชัดว่า ใครเป็นใคร"

รศ.นพ.เชิดชัย กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้สังคมประเทศไทยวิกฤตอยู่3 อย่าง  คือเรื่องเศรษฐกิจ ที่แย่ลงเรื่อยๆ นายกรัฐมนตรีซึ่งมีประสบการณ์ความสำเร็จก็เชื่อว่าจะทำได้ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย วิกฤตที่ 2 คือเรื่อง รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม และเรื่องที่ 3 คือเรื่องเรื่องความแตกแยก ซึ่งคราวนี้เป็นพันธุ์ผสมที่ประหลาดถ้ามองในแง่ดีก็ดีถ้ามองในแง่ลบก็เป็นเรื่องความคิดเห็นของแต่ละคนไปแต่เชื่อว่าสี่ปีที่ทำงานของพรรคเพื่อไทยจะสามารถไปต่อได้ ส่วนคนเสื้อแดงก็จะคอยสนับสนุน

"อยากจะฝากถึงรัฐบาลนำโดยคุณเศรษฐาเพื่อให้กำลังใจว่า   ขยัน ขยัน ขยัน เหมือนผู้ว่าฯชัชชาติที่ทำงาน ทำงาน ทำงาน และขอให้รับฟังประชาชนให้เยอะๆ"

อย่างไรก็ตามกำหนดการ การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี  โดยมีกำหนดการเริ่มจากวันที่ 8 ก.ย.ช่วงเช้า ลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ และพบปะประชาชนที่อยู่ทั้งในพื้นที่ชลประทานและในพื้นที่นอกชลประทาน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ่ พื้นที่ทำกิน และการบริหารจัดการน้ำ ตามกำหนดการต่อไป