ชาวกบินทร์บุรีสืบสานบุญข้าวประดับดินสิ้นเดือน 9 ไทยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ

ชาวกบินทร์บุรีสืบสานบุญข้าวประดับดินสิ้นเดือน 9 ไทยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ





ad1

เมื่อวันที่ 14 กย.66 ที่วัดหลวงบดินทร์เดชาสิงห์เสนี ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านทยอยออกมาทำบุญข้าวประดับดินตั้งแต่ 03.00 น. บุญข้าวประดับดิน บุญเดือนเก้า ที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และสัตว์นรกหรือเปรตประเพณีบุญข้าวประดับดิน บุญเดือนเก้า เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานโดยบุญข้าวประดับดิน เป็นงานประเพณีที่ถูกจัดขึ้นในวันแรม 14 ค่ำ เดือนเก้า ของทุก ๆ ปี  ประเพณีบุญข้าวประดับดิน

ทั้งนี้ในการทำบุญข้าวประดับดินนั้น ชาวบ้านจะนำข้าวปลา อาหาร คาวหวาน ผลไม้ หมาก พลู บุหรี่ มาห่อด้วยใบตอง และทำเป็นห่อเล็ก ๆ ก่อนจะนำไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่หรือตามพื้นดินบริเวณรอบ ๆ เจดีย์ หรือโบสถ์ โดยการทำบุญข้าวประดับดินนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงอุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรก หรือเปรตนอกจากนี้ บุญข้าวประดับดิน ยังถือว่าเป็นการให้ทานแก่ผู้ยากไร้รวมทั้งสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ ที่ต้องหิว อดมื้อกินมื้อมาตลอดทั้งปีอีกด้วย เพราะการที่ตั้งอาหารไว้ที่พื้นทำให้สัตว์เหล่านั้นสามารถเข้ามากินอาหารได้อย่างเต็มที่

นางเล็ก หมั่นประโคนชาวบ้าน ม.11 ต.เมืองเก่า กล่าวว่าวันนี้ได้มาทำบุญข้าวประดับดินเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว นำข้าว อาหารหวานคาว 9 อย่าง เช่น ข้าวต้มมัน รอดช่อง ขนมหม้อแกง เป็นต้นมาทำบุญตามประเพณี ตื่นตั้งแต่เที่ยงคืนเตรียมหุงหาอาหาร เพื่อที่จะมาทำบุญในวันนี้ เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว

การทำบุญข้าวประดับดินนี้จะเตรียมอาหารมาให้พระสงฆ์ท่านได้สวดหยาดน้ำใส่อาหารที่เตรียมมา จากนั้นจะให้ญาติโยมมี่มานำไปวางไว้ตามที่ต่างๆฯลฯความเป็นมาบุญข้าวประดับดินการทำบุญข้าวประดับดินนี้ เกิดจากความเชื่อตามนิทานธรรมบทว่า ญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ได้ยักยอกเงินวัดไปเป็นของตนเอง ครั้นตายไปแล้วได้ไปเกิดเป็นเปรตในนรก และเมื่อพระเจ้าพิมพิสารถวายทานแด่พระพุทธเจ้าแล้วมิได้อุทิศให้ญาติที่ตาย กลางคืนพวกญาติที่ตายมาแสดงตัวเปล่งเสียงน่ากลัวให้ปรากฏใกล้พระราชนิเวศน์ รุ่งเช้าได้เสด็จไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทูลเหตุุให้ทราบ พระเจ้าพิมพิสารจึงถวายทานอีก แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ ญาติที่ตายไปจึงได้รับส่วนกุศล ดังนั้น การทำบุญข้าวประดับดิน คือการทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ญาติผู้ตายแล้ว ถือเป็นประเพณีที่ต้องทำเป็นประจำทุกปี

ประวัติบุญข้าวประดับดิน ประเพณีบุญเดือนเก้าที่สืบทอดต่อกันมา
พิธีกรรมบุญข้าวประดับดิน มีดังนี้

1.วันแรม 13 ค่ำ -14 ค่ำเดือน 9 ชาวบ้านจะเตรียมข้าวต้ม ขนม อาหารคาวหวาน หมาก พลู และบุหรี่ไว้ 4 ส่วน ส่วนหนึ่งเลี้ยงดูกันภายในครอบครัว ส่วนที่สองแจกให้ญาติพี่น้อง ส่วนที่สามอุทิศให้ญาติที่ตายไปแล้ว และส่วนที่สี่นำไปถวายพระสงฆ์ ในส่วนที่สาม ญาติโยมจะห่อข้าวน้อย ซึ่งมีวิธีการห่อคือ ใช้ใบตองห่อขนาดเท่าฝ่ามือ ส่วนความยาวนั้นให้ยาวสุดซีกของใบตอง

2. วันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ชาวบ้านจะไปวัดตั้งแต่เวลาตี 4 เพื่อนำสิ่งของที่เตรียมไว้จัดใส่กระทง หรือเย็บเป็นห่อเหมือนข้าวสากไปวางอุทิศส่วนกุศลตามที่ต่าง ๆ ซึ่งการวางแบบนี้ เรียกว่า การวางห่อข้าวน้อย แต่หากเป็นการนำไปวางในวัด จะเรียกว่า การยาย (วางเป็นระยะ ๆ ) ห่อข้าวน้อย ซึ่งเวลานำไปวางจะพากันไปทำอย่างเงียบ ๆ ไม่มีการตีฆ้อง ตีกลองแต่อย่างใดหลังจากวางเสร็จแล้ว ชาวบ้านจะกลับบ้านเพื่อเตรียมอาหารทำบุญที่วัดอีกทีหนึ่งในตอนเช้า เมื่อพระสงฆ์ฉันเช้าเสร็จก็จะเทศน์ฉลองบุญข้าวประดับดิน

ต่อจากนั้น ชาวบ้านจะนำปัจจัยไทยทานถวายแด่พระสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์ให้พรเสร็จ ชาวบ้านที่มาทำบุญก็จะกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติผู้ที่ล่วงลับไปแล้วทุก ๆ คน   อาหาร คาว หวานทั้งหมด 9 อย่าง แล้วแต่ใครจะทำมาทำบุญ

โดย....มานิตย์  สนับบุญ/  ปราจีนบุรี