ไล่ล่าระทึก!ปะทะเดือดแก๊งค้าขนยานรก 6 ล้านเม็ด ตำรวจพลีชีพ 1 เจ็บ 1 คนร้ายวิสามัญ 1 ศพ

เชียงราย - ตำรวจปส.ไล่ล่าระทึกยิงปะทะเดือดสนั่นเวียงชัย หนุ่มใหญ่ไชยปราการบึ่งฟอร์จูนเนอร์ขนยานรกไม่ต่ำกว่า 5-6 ล้านเม็ด หนีเจ้าหน้าที่รถชนเสาไฟฟ่สชักปืนยิงสู้ตำรวจ 3 นายหวังเปิดทาง ตำรวจพลีชีพ 1 เจ็บ 1 ส่วนคนร้ายเจอวิสามัญดับคาที่ 1 ศพ

พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 บช.ปส.พ.ต.อ.ทิวาพงษ์ พลูโต ผกก.กก.2 บก.ปส.3 สืบทราบว่าเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 19 ก.ย.2566  จะมีขบวนการค้ายาเสพติด ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ไป เข้าสู่ชั้นในของประเทศ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ รัตนประยูร สว.กก.2 บก ปส.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ออกติดตาม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ติดป้ายทะเบียนปลอม ตรงตามที่ได้รับรายงานจึงได้ติดตามไปจนกระทั่งถึงบริเวณ ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย คนขับรถต้องสงสัยได้ไหวตัวทันและได้ขับรถเลี้ยวหลบหนีเข้าไปในถนนด้านหลังตลาดสดเวียงชัย เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถยนต์ไปขวางไว้ตรงทางออก ซึ่งห่างจากที่ว่าการ อ.เวียงชัย และ สภ.เวียงชัย ประมาณ 30 เมตร

แต่เมื่อรถต้องสงสัยมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่ได้สกัดไว้คนร้ายได้ตัดสินใจเร่งเครื่องชนแล้วพยายามหลบหนี ก่อนจะชนเข้ากับเสาไฟฟ้าและป้ายร้านค้าที่ตั้งอยู่บนทางเดินเท้าไม่สามารถขับต่อไปได้ แต่คนขับรถ ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นนานประมาณ 1 นาที ก่อนคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตคาที่พร้อมอาวุธปืนพกสั้นชนิด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก เบื้องต้นทราบว่าชื่อนายจะนอย อายุ 51 ปี ชาว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่

โดยเจ้าหน้าที่ชุดติดตามได้ถูกกระสุนของคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 1 นายคือ ด.ต.วีระวัฒน์ คำดี สังกัดหน่วยปราบปรามยาเสพติดเชียงราย (นปส.เชียงราย) กก.2 บก.ปส.3 และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 1 นายคือ ด.ต.วิพู พานพิมพ์ สังกัดอยู่หน่วยเดียวกัน ขณะที่ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ถูกกระสุนเฉี่ยวทะลุชายเสื้อด้านซ้ายเ ไม่ได้รับบาดเจ็บ

หลังเหตุปะทะทางเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ก่อนประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจภายในรถพบบรรทุกกระสอบฟางสีฟ้าไปด้วยประมาณ 30 ใบ ภายในคาดว่าบรรจุยาเสพติดประเภทยาบ้าใบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมของกลางยาบ้าทั้งหมดประมาณ 5-6 ล้านเม็ด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบจำนวนที่แท้จริงต่อไป