ผู้ว่าฯขอนแก่นรุดเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวเหยื่อไฟสงครามอิสราเอล

ผู้ว่าฯขอนแก่นรุดเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวเหยื่อไฟสงครามอิสราเอล





ad1

ผู้ว่าฯขอนแก่น รุดให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล หลังถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตี ยืนยันพาคนขอนแก่นกลับบ้านทุกคน ทันที ที่ กต.ยืนยันจัดรถพาครอบครัวรับที่สนามบิน  แต่ชุดแรก 14 ต.ค.นี้ยังไม่มี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ต.ค.2566ที่บ้านเลขที่ 34/1 ม.6 บ.โคกสูง ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นางอรวรรณ หินตะ แรงงาน จ.ขอนแก่น,นางรัตนาภรณ์ สมบูรณ์ ที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม ลงพื้นที่พบกับนายรำเพย กุสะรัมย์ อายุ 62 ปี บิดาของนายอภิชาต กุสะรัมย์ อายุ 29 ปี และนายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ อายุ 26 ปี 2 พี่น้องที่ไปทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ประเทศอิสราเอล เพื่อให้กำลังใจและนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบด้านแรงงานและด้านสวัสดิการ รวมไปถึงด้านสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าแนวทางการให้ความช่วยเหลือและร่วมพูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัว ที่ต่างยังคงรอฟังข่าวและรายงานความคืบหน้าจากหน่วยงานต่างๆ ที่เร่งให้การช่วยเหลือแรงงานไทย อยู่ในขณะนี้

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากข้อมูลของแรงงานจังหวัด พบว่ามีคนขอนแก่นไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ทั้ง 1,165 คน โดย อ.หนองสองห้อง มากที่สุด 188 คน และแม้ข้อมูลของอำเภอจะรายงานว่า 184 คน จึงต้องตรวจสอบและประสานข้อมูลให้ถูกต้อง ซึ่ง 2 พี่น้องของครอบครัวที่มาเยี่ยมและกำชับแนวทางการปฎิบัติให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ในจุดแรกนี้ แม้ครอบครัวจะบอกว่า ทั้ง 2 เสียชีวิตแล้วจากการที่เพื่อนๆของลูกส่งข่าวมา แต่แนวทางการปฎิบัติต้องรอการยืนยีนชัดเจนจากกระทรวงการต่างประเทศ และการพิสูจน์อัตลักษณ์ต่างๆตามขั้นตอน ซึ่งครอบครัวและทุกคนหวังว่าจะมีปาฎิหาริย์ต่างๆให้แรงงานไทยทุกคนและคนขอนแก่นทุกคนที่ไปทำงานที่อิสราเอลปลอดภัย

"ผมยืนยันว่าจะพาคนขอนแก่นกลับบ้านทุกคน ซึ่งในรอบแรกของเที่ยวบินที่ทางการไทยจัดไปรับในวันที่ 14 ต.ค.นั้นไม่มีคนขอนแก่น เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งผมและทุกหน่วยงานประสานข้อมูลกันตลอดและติดตามความคืบหน้าตลอด ดังนั้นหากยืนยันว่ามีคนขอนแก่นเดินทางกลับประเทศ ก็จะจัดรถและพาครอบครัวไปรับที่สนามบินทันที"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องของการเยียวยาในสภาพจิตใจของครอบครัวและญาติพี่น้องทุกคนนั้น สำนักงาน สสจ.ขอนแก่น ได้เข้าพื้นที่มาประสานการทำงานร่วมกันกับทุกหน่วยงานแล้ว ซึ่งจังหวัดได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำงานอย่างเต็มทีและรายงานความคืบหน้าให้กับทางจังหวัด เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับกระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบ สำหรับข้อกังวลในเรื่องของผีน้อย ที่อาจจะไม่อยู่ในรายชื่อ 1,165 คน ตามข้อมูลที่ทางแรงงานกำหนด ได้ให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องเพื่อที่การให้ความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานจะเข้าถึงทุกคนอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ นางอรวรรณ หินตะ แรงงาน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับกรณีคนงานที่คาดว่าเสียชีวิตในอิสราเอล แต่ต้องได้รับการยืนยันจากสถานทูตไทย ณ กรุงเทอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ตามขั้นตอนการดำเนินงาน โดย นายอภิชาติ กุสะรัมย์ จะได้รับเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานกรณีเสียชีวิต 40,000 บาท กรณีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลหรือกับฝ่ายปาเลสไตน์ จะได้รับค่าตอบแทนจาก National insurance Institute

โดย ภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือนจนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือบุตรมีอายุครบ 18 ปี โดยภรรยา ได้รับประมาณ 60 % ของ 6,000 เชคเกล ทุกเดือน ( 1 เชคเกล = 9.24 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละช่วง) หรือประมาณ 33,000 บาท ส่วนบุตร ได้รับประมาณ 10-20 % ของ 6,000 เชคเกล ทุกเดือน ประมาณ (6,000 - 12,000 บาท )ต่อเดือน และจากการตรวจสอบการส่งเงินในระบบประกันสังคมของนายอภิชาต กุสะรัมย์ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม 26,079 บาท ยังไม่รวมดอกผล และเงินปิซูอิม ( Sevice Pay) เป็นเงินชดเชยจากนายจ้างกรณีถูกเลิกจ้างหรือกรณีกรณีลูกจ้างเสียชีวิต ให้แก่คู่สมรสตามกฎหมายหรือเป็นที่รับรู้ โดยนายจ้างจะต้องจ่ายเท่ากับอัตราค่าจ้างปกติ 1 เดือนต่อปี

"สำหรับนายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ จะได้เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานกรณีเสียชีวิต40,000 บาท และ จากการตรวจสอบการส่งงินในระบบประกันสังคมของนายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม 14,712.18 บาท ยังไม่รวมดอกผล และนายพิชิต นาจันทร์ ได้รับเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานกรณีเสียชีวิต
40,000 บาท  และจากการตรวจสอบการส่งเงินในระบบประกันสังคมของนายพิชิต นาจันทร์ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม 44,750.21 บาท  ยังไม่รวมดอกผล

อย่างไรก็ตามกรณีเสียชีวิตจะต้องได้รับใบมรณบัตรซึ่งออกโดยสถานเอกอัศรราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟประเทศอิสราเอลก่อน ครอบครัวจึงจะสามารถยืนเรื่องขอรับเงินกองทุนยื่นและเงินสิทธิประโยชน์ในประเทศอิสราเอล ได้ ที่ สำนักงานจัดหางาน ข.ขอนแก่น ส่วนเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคมยี่น ที่ สำนักงานประกันสังคม"