ไฟไหม้ย่านศก.กลางเมืองชัยภูมิวอดกว่า 30 คูหา คาดสูญ 100 ล้าน

ไฟไหม้ย่านศก.กลางเมืองชัยภูมิวอดกว่า 30 คูหา คาดสูญ 100 ล้าน





ad1

ชัยภูมิ-เหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ย่านเศรษฐกิจกลางเมืองชัยภูมิ เพลิงเผาผลาญเสียหายมากกว่า 30 คูหาทั้งตึกแถวและบ้านเรือนประชาชน ไฟเริ่มจากร้านขายที่นอนก่อนจะปะทุลามเพราะลมแรง ส่วนสาเหตุกำลังเร่งสอบสวนคาดอาจเสียหายสูงถึงร้อยล้าน

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้กลางเมืองชัยภูมิ เมื่อประมาณ 19.15 น. เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีรพันธ์ สุนทรวิภาค รอง สว.  (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น 2 คูหา ย่านกลางเมืองชัยภูมิ ตั้งอยู่ภายในย่านตลาดโซนเศรษฐกิจย่านกลางเมืองชัยภูมิ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมรถน้ำมาดับเพลิงไหม้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลงได้ ทำให้ตัวอาคารร้านค้าขนาดสูง 2 ชั้น 2 คูหา ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่วยเฟอร์นิเจอร์ ผ้าไหม เครื่องนอน เลขที่ 273/112-113 ก. ถนนยุติธรรม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ชื่อร้านเกียรติสิน ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับผ้าไหม และที่นอน

นายวรเทพ ชัยบุตร เจ้าของร้าน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในร้าน ซึ่งคาดว่าบริเวณจุดเกิดเหตุในช่วงแรกหน้าจะเกิดจากบริเวณตู้คัตเอาต์ที่มีสภาพเก่า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากอาคารหลังดังกล่าวได้เปิดมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ซ่อมปรับปรุงระบบไฟฟ้าเลย ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากบริเวณนี้ อีกทั้งไฟภายในอาคารค่อนข้างที่จะเก่า อาจจะมาจากบริเวณจุดนี้

จากนั้นเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 21 ต.ค. 66 ได้เกิดปะทุไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง จากแรงลมหนาวที่พัดแรงในช่วงนี้ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว ไฟลามเข้าไปยังตัวอาคาร บ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่ติดกัน ย่านตลาดร้านค้าโซนเศรษฐกิจกลางเมืองชัยภูมิ ซ้ำอีกชาวบ้านหลายร้อยคนต้องพากันขนของหนีออกจากบ้านที่เพลิงกำลังลุกลามเข้ามาใกล้กันอลหม่านมาตลอดทั้งคืน เพื่อมายืนดูเจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำมาช่วยดับเพลิงกันอย่างต่อเนื่อง

จนถึงตอนเช้าที่ผ่านมา ทั้งนายสมบัติ ไตรศักดิ์ รักษาการผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วย นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ และนายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ต้องระดมขอกำลังรถดับเพลิงจากทุกตำบลเมืองชัยภูมิ อำเภอใกล้เคียงและจ.นครราชสีมาจำนวนมากกว่า 50 คัน เข้าช่วยกันสกัดเพลิงอย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นมีอาคารร้านค้าในพื้นที่ย่านกลางเมืองชัยภูมิ ถูกเพลิงไหม้เสียหายแล้วจำนวนมากกว่า 30 คูหา ยังต้องระดมรถน้ำเข้ามาดับเพลิงที่ยังไหม้อยู่ต่อเนื่อง รวมถึงต้องใช้รถกระเช้าสูง ฉีดน้ำดับเพลิงจากที่สูงลงสู่ด้านร่างกองเพลิง มีอาคารพาณิชย์ ทั้งที่เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ก่อสร้างมานานกว่า 40-50 ปี และอาคารคอนกรีต 4 ชั้น เปิดเป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านค้าจำหน่ายทองคำรูปพรรณ ร้านค้าขายเสื้อผ้า รองเท้า และอื่นๆ ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย

รวมถึงบ้านเรือนประชาชนด้านในซอยซึ่งเป็นบ้านไม้ถูกไฟไหม้วอดไปอีกหลายหลัง ได้มีการตั้งโต๊ะรับแจ้งความเสียหายจากเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้บ้านที่ถนนด้านหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ ซึ่งเจ้าของบ้านคูหาร้านค้าที่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายพักอาศัยไม่ได้ ส่วนใหญ่จะมีบ้านพักอาศัยอีกหลังด้านนอกพื้นที่ถูกไฟไหม้ และบางส่วนได้มาพักอาศัยอยู่กับบ้านญาติ

ล่าสุด นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ กล่าวว่า ได้ควบคุมเหตุเพลิงไหม้ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุไฟไหม้ช่วงเวลา 03.00 น.จนถึงเวลา 09.00 น.(21 ต.ค. 66) ใช้เวลาร่วม 5 ชม. สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้หมดแล้ว และใช้รถแม็คโครเคลียร์พื้นที่ซากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้เป็นบริเวณกว้างจึงต้องนำเศษอาคารโครงเหล็กออกจากบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้เพื่อให้จนท.ดับเพลิงเข้าฉีดน้ำที่ยังปะทุให้ดับสนิท ก่อนให้จนท.พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง

นายธีวรา กล่าวต่อว่า ช่วงประมาณเวลา 03.00 น. ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ด้านในใกล้กับอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ช่วงหัวค่ำที่เกิดไหม้ร้านเกียรติสินจำหน่ายที่นอนเสียหาย 2 คูหาทางจนท.ดับเพลิงได้ใช้เวลา 1 ชม.สามารถดับไฟจนดับสนิทแล้ว โดยมีจนท.ดับเพลิงพร้อมรถดับเพลิงจำนวน 3 คันเฝ้าระวังจนเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้รอบที่ 2 ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต้นเพลิงจึงไม่ใช่มาจากการเกิดเพลิงไหม้จากครั้งแรก แต่ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุใดต้องรอให้ จนท.พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกรอบ

"แต่ยืนยันไม่เกิดจากจุดเดิม เพราะร้านที่อยู่ตลาดสดเทศบาลสดที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุ ยืนยันได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดก่อนที่เกิดเปลวเพลิงโหมขึ้นอย่างรวดเร็วผสมมีลมกรรโชกแรงจึงขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว จึงเกิดความเสียหายมากถึง 30 คูหา เบื้องต้นคาดว่าค่าเสียหาย 50 หรือ อาจถึง 100 ล้าน ต้องรอให้เจ้าของกิจการให้ข้อมูลกับจนท.ตำรวจและจนท.ของเทศบาลเพื่อประเมินความเสียหายอีกครั้ง" นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ กล่าว.