รัฐบาลลุยพัฒนาพื้นที่แม่สอด ด้านการค้า-ลงทุน-โลจิสติก-ท่องเที่ยว

รัฐบาลลุยพัฒนาพื้นที่แม่สอด ด้านการค้า-ลงทุน-โลจิสติก-ท่องเที่ยว





ad1

ตาก-"กวี"เลขานุการรองประธานสภาผูแทนราษฎร ลงพื้นที่ประชุมหาแนวทางพัฒนาพื้นที่อำเภอแม่สอดครอบคลุม 3 มิติด้านการค้า/การลงทุน ด้านโลจิสติก และด้านการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม .2566 นายกวี อัศวรัตน์ เลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร  ได้รับมอบหมายจาก นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางการพัฒนาพื้นที่อำเภอแม่สอด และจังหวัดตาก ร่วมกัน โดยมี หอการค้าจังหวัดตาก สส.ตาก เขต 2 ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมหอการค้าจังหวัดตาก อ.แม่สอด  จ.ตาก    โดยมีนายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก  หอการค้าจังหวัดตาก สส.ตาก เขต 2 ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม

โดยการประชุม ได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือกันในการพัฒนาพื้นที่อำเภอแม่สอด และจังหวัดตาก อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาใน 3 มิติ ทั้งมิติด้านการค้า/การลงทุน ด้านโลจิสติก และด้านการท่องเที่ยว โดยมีเรื่องที่ควรได้รับการผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยเร็วที่สุด ได้แก่ เรื่อง ที่ 1. โครงการ MR-MAP หรือมอเตอร์เวย์คู่ราง ในเส้นทางตาก - แม่สอด ที่จะช่วยบูรณาการโครงข่ายคมนาคมอย่างยั่งยืน และมีส่วนสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ของประเทศไทย ซึ่งโครงการ MR-MAP นี้ หากดำเนินการสำเร็จ แล้วผนวกเข้ากับโครงการรถไฟสายแม่สอด - นครสวรรค์ จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนแม่สอดให้ดียิ่งขึ้นตามมา

เรื่องที่ 2. เป็นการยกระดับพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่จังหวัดตาก เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 2 แปลง คือ พื้นที่ขนาด 1,076 ไร่ ที่มีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมต่อการค้า การลงทุน รองรับการพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาประกอบธุรกิจการค้า โดยมีมาตรการช่วยเหลือจากทางการ ที่เอื้อต่อการค้า การลงทุน นอกจากนี้ ยังมีที่ดินขนาด 671 ไร่ ที่มีความพร้อมในการจัดพื้นที่ เพื่อรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบัน มีแนวโน้มและความเป็นไปได้สูง ที่นักลงทุนต่างชาติ จะให้ความเชื่อมั่นกับเรื่องของความมั่นคง และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศไทยได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้าน เป็นอย่างมาก

เรื่องที่ 3. เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านสุขภาวะของประชาชน และด้านการท่องเที่ยว ซึ่งต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการจัดให้มีแลนค์มาร์คประจำถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว เช่น การก่อสร้างแม่สอดทาวเวอร์ หรือการจัดให้มีพื้นที่สีเขียว ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ โดยมีการสร้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้นำเสนอโครงการ หรือประเด็นอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ และมีความสอดคล้องเชื่อมโยง เกื้อหนุนให้เกิดการพัฒนาในมิติด้านการค้า/การลงทุน ด้านโลจิสติก และด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะได้นำข้อมูลที่ได้รับจากการประชุมครั้งนี้ ไปดำเนินการผลักดันและขับเคลื่อนผ่านกลไกตามหน้าที่ และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป