เหยื่อร้องแจ้งความเอาผิดสาวแสบหลอกขายมือถือออนไลน์คดีไม่คืบ

เหยื่อร้องแจ้งความเอาผิดสาวแสบหลอกขายมือถือออนไลน์คดีไม่คืบ





ad1

นครราชสีมา-สาวแสบ หลอกขายโทรศัพท์ออนไลน์ แจ้งความเกือบ 3 เดือน คดีไม่คืบ พบผู้เสียหายเพิ่มอีก 13 ราย หลอกมา 4 ปี คดีเพียบ ไม่มีใครทำอะไรได้

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นางนลิน โรจนวัทธิกร เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ(NRO)ภาคอีสาน พร้อมด้วยนายวินัย เกี้ยวพิมาย ผู้เสียหายที่ถูกนางสาวสุภาพรรณ เจ๊กเหล็ก หรือ “น้องแบม” หลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือ มือสอง ผ่านทางเฟสบุ๊ค ได่พากันมาติดตามความคืบหน้าทางคดี หลังจากได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย จังหวัดนครราชสีมา ไปเมื่อตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา  และหลังจากแจ้งความไปแล้ว พบว่า มีผู้เสียหายอีก 13 ราย ได้เข้ามาแจ้งกับองค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ ว่า ถูกนางสาวสุภาพรรณฯ หลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือในลักษณะเดียวกันด้วย โดยรายล่าสุด เป็นเยาวชนจากจังหวัดลำพูน ถูกหลอกสูญเงินกว่า 9,500 บาท เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

ซึ่งนางสาวสุภาพรรณฯ  จะโพสต์หลอกขายโทรศัพท์ ไอโฟน 11 Pro ในราคา 10,000 บาท เมื่อมีผู้หลงเชื่อจะทำการวิดีโอคอลให้ผู้เสียหายดูว่า ตัวเองมีโทรศัพท์เครื่องจริงพร้อมส่งให้ และมีการส่งบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมทั้งแพ็คโทรศัพท์ใส่กล่องพัสดุให้ดู ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินให้  จากนั้น นางสาวสุภาพรรณฯ  จะบล็อคเบอร์โทร. ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้อีก โดยนางสาวสุภาพรรณฯ จะเลือกเหยื่อที่มีอายุระหว่าง 14-18 ปี เนื่องจากเป็นผู้เยาว์จะไม่สามารถแจ้งความเองได้ ต้องให้ผู้ปกครองเป็นคนนำมาแจ้ง ทำให้เด็กบางคนไม่กล้าบอกผู้ปกครอง จึงเป็นช่องทางให้ถูกหลอกโดยง่าย  และเมื่อเช็คประวัติย้อนหลัง ก็พบว่า นางสาวสุภาพรรณฯ ได้ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มานานมากกว่า 4 ปีแล้วโดยไม่ถูกดำเนินคดี ทั้งที่ใช้บัญชีส่วนตัว ไม่ต้องไปลำบากเปิดบัญชีม้าแต่อย่างใด

จากการสอบถามความคืบหน้าคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย เบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ฯ ได้ออกหมายไปยังธนาคารกสิกรไทย เจ้าของบัญชีของนางสาวสุภาพรรณฯ  แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากธนาคาร ทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อได้ นางสาวสุภาพรรณฯ จึงยังคงลอยนวลหลอกลวงคนอื่นอยู่ต่อไป และล่าสุด พบเฟสบุ๊คของนางสาวสุภาพรรณฯ ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แบบกินหรูอยู่สบาย และคาดว่า คงจะเดินสายหลอกลวงเป็นอาชีพต่อไปอีก  เพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังไม่สามารถทำอะไรต่อได้