คนกบินทร์บุรีผวา!ช้างป่าอ่างฤาไนตกมันคลั่งเตะชาวบ้านซีโครงหัก 3 ซี

0 10

ปราจีนบุรี –เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานเร่งผลักดัน 2 ช้างป่าอ่างฤาไนคืนสู่ธรรมชาติ หลังเตะชาวบ้านชุมชนบ้านทับไทรซี่โครงหัก 3 ซี่

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าว ข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รายงานเหตุการณ์แจ้งต่อนายธานนท์ โสภิตชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี)

ความคืบหน้า จากเหตุการณ์ที่มีช้างป่าทำร้ายราษฎรในท้องที่ชุมชนบ้านทับไทร ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 ตั้งแต่ช่วงเวลาเช้า ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามหาตัวช้างป่าดังกล่าวตลอดช่วงเวลากลางวันเพื่อควบคุมพื้นที่มิให้เกิดอันตรายต่อราษฎรเพิ่มเติม

ต่อมา เวลา 19.00 น. อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ออกผลักดันช้างป่า ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติปางสีดา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในท้องที่ชุมชนบริเวณ สวนป่าสักครูเขียว, คลองเสือดำ,แก่งงูเห่า จรดดึกถึงค่อนรุ่งวันนี้(12พ.ย.)

คณะเจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการเดินเท้าติดตาม และใช้โดรนเป็นอุปกรณ์ตรวจการ ผลการดำเนินการพบช้างป่า จำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นช้างป่าแตกโขลงมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทย (ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา , จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันบุรี และ จ.ระยอง) ที่ออกมาหากินในพื้นที่ จ.สระแก้ว จำนวน 4 ตัว เมื่อเร็ว ๆ นี้ และแตกโขลงข้ามมาไกลถึงพื้นที่บ้านทับไทร ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปาจีนบุรี อยู่ในบริเวณดังกล่าว และช้างป่าทำร้ายราษฎรในท้องที่ชุมชนบ้านทับไทรวานนี้ (11พ.ย.) นั้น

จึงได้ทำการผลักดัน เพื่อให้ช้างป่าเคลื่อนที่กลับเข้าสู่ป่าธรรมชาติ โดยเวลาประมาณ 01.00 น.วันนี้(12พ.ย.) ช้างป่ามุ่งหน้าลงไปทางทิศใต้มุ่งสู่ อ.กบินทร์บุรี ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทำการควบคุมพื้นที่และประสานแจ้งเตือนราษฎรในบริเวณใกล้เคียง และชุมชนที่คาดว่าช้างป่าคู่ดังกล่าวจะมุ่งหน้าเดินทางผ่าน โดยให้ระมัดระวัง ห้ามทำการกดดันช้างป่าจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้คนไปมากกว่าเดิม ทั้งนี้จักได้ประสานแนวทางการปฎิบัติกับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนต่อไป นายประวัติศาสตร์