โซโฮ ฮอสพิทอลลิตี้ เปิดตัว El Santo ร้านอาหารเม็กซิกันใหม่ล่าสุด

โซโฮ ฮอสพิทอลลิตี้ เปิดตัว El Santo ร้านอาหารเม็กซิกันใหม่ล่าสุด





ad1

El Santo (เอล ซานโต) ร้านอาหารเม็กซิกันสูตรต้นตำรับ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการต่อสู้บนสังเวียนมวยปล้ำอาชีพ หรือ Lucha Libre นำเสนอรสชาติอาหารเม็กซิกันแบบดั้งเดิม จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ด้วยความสนุกสนาน เปี่ยมไปด้วยพลังงาน และความตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะตัวเลือกเตกีล่าที่หลากหลายและครบครันที่สุดในประเทศไทย ผสมผสานกับบรรยากาศอันแสนครึกครื้นจากการแสดงอันน่าประทับใจ ที่จะสร้างประสบการณ์การลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มครั้งพิเศษอีกครั้ง ตามแบบฉบับของผู้นำด้านการออกแบบและร้านอาหารพร้อมรางวัลการันตีมากมายอย่าง โซโฮ ฮอสพิทอลลิตี้ ผู้อยู่เบื้องหลังร้านอาหารและบาร์แถวหน้าของกรุงเทพฯ หลายแห่ง

“พวกเราอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับคนกรุงเทพฯ ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นชาวเม็กซิกันอย่างแท้จริง ณ El Santo (เอล ซานโต้) ผมและทีมงานทุกคนต่างทุ่มเทความมุ่งมั่นและความใส่ใจเข้าไปในทุกรายละเอียด จนเกิดเป็นร้านอาหารเม็กซิกันในคอนเซ็ปต์อันน่าตื่นตาตื่นใจและโดดเด่นที่สุดในกรุงเทพฯแห่งนี้ขึ้น เพื่อมอบรสชาติอันจัดจ้านตามแบบฉบับของชาวเม็กซิกันที่แท้จริง เรามั่นใจว่าร้านอาหารแห่งนี้จะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางความอร่อยและความสนุกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ"

โรหิต สัจเดว์ (Rohit Sachdev) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โซโฮ ฮอสพิแทลลิตี้ กล่าว เพื่อสร้างบรรยากาศความสนุกสนานตามต้นแบบจากประเทศเม็กซิโก El Santo (เอล ซานโต้) ได้คัดสรรตัวเลือกเตกีล่าและเมซคาลที่พร้อมให้เลือกลิ้มรสมาไว้ที่บาร์กว่า 65 แบรนด์ซึ่งนับว่าเป็นคอลเล็กชันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเฉลิมฉลองงช่วงเวลาและโอกาสพิเศษให้เป็นความทรงจำน่าประทับใจ (ที่ขึ้นอยู่ว่าคุณจะดวลเตกีล่ากับเพื่อนไปกี่ช็อต) โดยไฮไลต์อยู่ที่ เตกีล่าที่กลั่นจากุ์ บลูอะกาเว่ (Blue Agave) 100% รวมถึงหลากหลายตัวเลือกเมซคาลจาก Montelobos ไม่ว่าจะเป็น Montelobos Pechuga เมซคาลรสชาติที่แสนซับซ้อน ด้วยกรรมวิธีการกลั่นตามฤดูกาลถึงสามครั้ง ด้วยเทคนิคการนำอกไก่งวง และส่วนผสมของผลไม้ท้องถิ่น และเครื่องเทศไว้เหนือหม้อกลั่น นอกจากนี้ยังมีเตกีล่าระดับพรีเมียมจากเมืองอันเยโฮ (Añejo) บ่มในถังไม้โอ๊กสัญชาติฝรั่งเศสและอเมริกา ปิดท้ายกระบวนการบ่มในถังพอร์ทไวน์เพื่อเผยความหอมหวานที่ซ่อนอยู่ ก่อนจะกรองด้วยถ่านแอคทีฟชาร์โคลเพื่อให้ได้สีที่ใสราวคริสตัลพร้อมรสชาติอันกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์

ความสนุกยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเมื่อแขกทุกท่านได้เปิดประสบการณ์ ลิ้มรสค็อกเทลประจำชาติอย่างมาการิต้ากับบริการ ‘Margarita At Your Table’ เปิดโอกาสให้นักดื่มนักชิมสามารถเลือกส่วนผสมได้ตามต้องการตั้งแต่เบสที่มีให้เลือกทั้งเตกีล่าและเมซคาล ต่อด้วยไซรัปเพื่อเพิ่มรสชาติด้วย ทริปเปิ้ล เซค, แกรนด์ มาเนียร์, บลูคูราโซ หรือ เชอร์รี่ลิเคียวร์ รวมถึงเนกต้าผลไม้ อาทิ สับปะรด, มะพร้าว หรือทับทิม เพื่อรสชาติที่ถูกปากและตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยบาร์เทนเดอร์จะมามิกซ์มาการิต้าแต่ละแก้วที่บริเวณข้างโต๊ะ สร้างบรรยากาศแห่งความสนุกสนานอย่างใกล้ชิด

ทีมงานหลังบาร์ทุกคนที่ El Santo (เอล ซานโต้) พร้อมร่วมเฉลิมฉลองรสชาติแห่งความเป็นเม็กซิกันอย่างครบรส ส่งต่อจิตวิญญาณแห่งความสนุกด้วยเตกีล่าและเมซคาล ผ่านซิกเนเจอร์ค็อกเทลหลากหลายเมนู โดยไฮไลต์ที่ห้ามพลาดประกอบด้วย Fight Me Like A Man (เตกีล่า, เมซคาล, ฮิบิสคัส, ชิโพเล่, ระกำ และมะนาว), On The Ropes (เตกีล่า, เมซคาล, ข้าวโพด, สับปะรด และมะพร้าว) และ Blue Demon (เตกีล่า, ชาอันชัน, เกร๊ปฟรุ๊ตโซดา, สไปซ์อะกาเว่ และมะนาว)

ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากกว่า 10 ปี และความหลงใหลในรสชาติอาหารเม็กซิกัน จากประสบการณ์การทำงานที่ร้านอาหารเม็กซิกัน อาทิ Rosa Negra และ Cantina La Veinte เชฟ Daniel Calderón Camacho จึงได้รังสรรค์เมนูที่ผสมผสานทั้งความดั้งเดิมและความร่วมสมัย ทำให้อาหารทุกจานที่ El Santo (เอล ซานโต้) เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและรสชาติที่จัดจ้านชัดเจนถึงความเป็นเม็กซิกัน

ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเล็กๆ เคียงคู่เสริมรสชาติกับค็อกเทลที่มีเบสเป็นอะกาเว่ อาทิ Maya Ceviche – อาหารเม็กซิกันอันเลื่องชื่ออย่างเซวิเช่ ที่ให้ทั้งความสดชื่นและจัดจ้าน มีส่วนประกอบหลักคือปลากะพง ปรุงรสด้วยหอมแดง มะเขือเทศ อะโวคาโด้ และผักชี – Sashimi de Sandia – แตงโมแล่บางเหมือนซาชิมิก่อนที่จะนำไปย่างเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมชีสนมแพะ และโรยหน้าด้วยงาขาว พริกฆาลาเปญโญ และซอสพอนซึ สะท้อนจิตวิญญาณอันมีชีวิตชีวา ตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยอย่าง Sopa de Tortilla – ซุปมะเขือเทศ เสิร์ฟพร้อมแป้งตอร์​ติ​ญ่า​ทอดกรอบ, ชีสปาเนล่า, อะโวคาโด้ และ พริกแห้งรมควัน – Huarache de Wagyu – หนึ่งในจานคลาสสิคที่นำมาทวิสต์ในแบบฉบับของ El Santo (เอล ซานโต้) ด้วยส่วนผสมของอะโวคาโด้เพียวเร่, วากิวริบอาย, โชริโซ่, ชีส และแป้งโดสีฟ้า

ไฮไลต์ในส่วนของอาหารจานหลัก ประกอบด้วย Langostinos al Ajillo – กุ้งลายเสือ, พริกกัวจิลโล, กระเทียม, พริกชิเลเดอาร์โบลป่น และน้ำมันมะกอก Salmon en Tamarindoo – แซลมอนขนาด 250 กรัม หมักในซอสมะขาม, เสิร์ฟพร้อมผักโขม, มะเขือเทศเชอร์รี่ และ ข้าวโพดเหลืองแน่นอนว่าการรับประทานอาหารสไตล์เม็กซิกันจะไม่ครบรสถ้าหากขาดเมนูทาโก้และเคซาดิย่าไป El Santo (เอล ซานโต้) มาพร้อมตัวเลือกเมนูมากมายให้เลือกสั่ง อาทิ Quesa-Birria – เนื้อซี่โครงตุ๋นแบบ slowcook จนเปื่อย เสิร์ฟพร้อมแป้งตอติญ่า, ชีส, ขมิ้น, ช็อกโกแลต, ออริกาโน่, ใบกระวาน และซุปคอนซอมเม และ Tacos de Jamaica – แป้งทากีโตทอดกรอบ ยัดไส้ด้วยดอกชบา, หัวหอมใหญ่, และกระเทียม เสิร์ฟพร้อมครีม, ผักกาดแก้ว, ชีส และซัลซ่าจากพริกสีเขียว

นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษของเชฟที่ห้ามพลาดพร้อมเสิร์ฟจากเตาย่างร้อน ๆ อย่าง Mole Seabass ที่ผ่านการบ่มกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนนำมาย่างพร้อมกับพริก 6 ชนิด จนได้ผลลัพธ์ที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมจากเตาถ่านและรสชาติที่เผ็ดร้อน เสริมรสด้วยสไปซ์ช็อกโกแลตสไตล์เม็กซิกัน ในส่วนของหวานเชฟเลือกเสิร์ฟความคลาสสิคด้วยเมนู Churros de Canela – ความหวานและนุ่มละมุนจากแป้งบางกรอบ เสิร์ฟพร้อมนมช็อกโกแลตและคาราเมล เติมรสชาติไปอีกขั้นด้วยการจุ่มลงไปในซอสช็อกโกแลต และ Tres Leches with Peaches

ดีไซน์ของ El Santo (เอล ซานโต้) ได้รับแรงบันดาลใจจากพลังงานอันร้อนแรงของวัฒนธรรมมวยปล้ำอาชีพของเม็กซิโก ทั้งสีสันสดใสฉูดฉาดจากหน้ากากคลุมศีรษะที่กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญ และการตกแต่งที่มีกลิ่นอายความดิบสไตล์อินดัสเทรียล พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา โดยแบ่งพื้นที่เป็นสามโซนเพื่อตอบโจทย์ความชอบของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ภายในร้านพร้อมครัวแบบเปิดให้ได้รับชมลีลาภายในครัวของเชฟและทีมงาน พื้นที่กลางแจ้งสำหรับการพักผ่อนจากความวุ่นวาย และบาร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากห้อง ล็อกเกอร์ของเหล่านักมวยปล้ำ