สร้างประวัติศาสตร์! "แมนซิตี้" ไล่ถลุง "ฟลูมิเนนเซ่" ผงาดแชมป์สโมสรโลก

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก นัดชิงชนะเลิศ คืนวันที่ 22 ธ.ค.66 ที่สนาม คิง อับดุลลาห์ สปอร์ต ซิตี้ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ระหว่างทีม "เรือใบ" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ พบกับทีม "ฟลูมิเนนเซ่"จากบราซิล 

เปิดเกมครึ่งแรก นาทีที่ 1 แมนซิตี้ นำ 1-0  จังหวะ มาร์เซโล่ เคลียร์บอลทิ้งขึ้นมาแต่ อาเก้ เก็บได้กลางสนามก่อนส่องไกลส่งบอลกำลังเข้าก้นตาข่าย แต่โดนปัดไปชนเสาเด้งเข้าทาง อัลวาเรซ ใช้อกส่งบอลเข้าประตูไป

นาทีที่ 27 แมนซิตี้ นำ 2-0 จังหวะที่ กรีลิช ทางซ้ายจ่ายย้อนมาที่ โรดรี้ ก่อนแทงเข้าเขตโทษให้ โฟเดน หลุดไปพยายามปาดเข้ากลางแต่ นีโน่ ตามสกัดส่งบอลลอยเข้าประตูตัวเองไป นาทีที่ 72 แมนซิตี้ นำ 3-0 จังหวะที่ อัลวาเรซ สอดเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วปาดให้กับ โฟเดน ตรงกลางวิ่งมาชาร์จเข้าไป

นาทีที่ 88 แมนซิตี้ 4-0 จังหวะจ่ายขนานเส้นให้ นูเนส ตามบอลไปแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ อัลวาเรซ จับบอลก่อนหลอกว่ายิงแล้วแตะหาช่องให้สับไกส่งบอลเข้าประตูไป จบเกม แมน ซิตี้ ชนะ ฟลูมิเนนเซ่ ไปได้ 4-0 ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมแรกจากอังกฤษที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพและแชมป์สโมสรโลกได้ในปีเดียวกัน

ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดใจหลังพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2023 ว่า "ผมภูมิใจกับสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างมาก สิ่งที่พวกเราทำได้คือความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม การคว้าถ้วยรางวัลนี้มาครองหมายถึงการเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก นักเตะของพวกเรา โค้ชและทีมงาน ทุกคนทำงานอย่างหนักในทุกๆ วันเพื่อให้เกิดความสำเร็จในครั้งนี้ พวกเราจะจดจำช่วงเวลาอันน่าเหลือเชื่อนี้อยู่เสมอ”