บิ๊กต่อ สั่งตำรวจทั่วประเทศระดมตั้งด่านตรวจเข้มวัดปริมาณแอลกอฮอล์

บิ๊กต่อ สั่งตำรวจทั่วประเทศระดมตั้งด่านตรวจเข้มวัดปริมาณแอลกอฮอล์





ad1

ผบ.ตร.สั่ง วางกำลังดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 กับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ พร้อมสั่งตำรวจทั่วประเทศตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เข้มมากขึ้น ขอความร่วมมือประชาชน "เมาไม่ขับ"

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ 2567 ว่า ในช่วงนี้มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้การดูแลจะแบ่งเป็น 2 หัวข้อหลักๆ คือ เรื่องแรก เป็นเรื่องของการดูแลความปลอดภัย ตั้งแต่การฝากบ้านไว้กับตำรวจในโครงการ Police 4.0 ชื่อโครงการดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการแบบนี้มาทุกปี อีกทั้งยังมีเพื่อนบ้านที่คอยช่วยดูแลและสอดส่องให้อีกด้วย  

ส่วนอีกเรื่องที่เน้นการดูแลเป็นหลัก คือเรื่องคุมเข้มความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของการเมาแล้วขับ ซึ่งตนได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วประเทศตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ให้เข้มมากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางตำรวจไม่สามารถไปสั่งห้ามคนที่ดื่มสุราได้ แต่ตนอยากให้ผู้ที่ดื่มสุรามีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน 

ส่วนเรื่องสภาพการจราจรนั้น ตนไม่ได้กังวลมากเท่าที่ควร เทศกาลปีใหม่หยุดเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น คาดว่าการเดินทางกลับต่างจังหวัดปริมาณรถจะไม่หนาแน่นมากกว่าปีก่อนๆ แต่ตนก็ได้สั่งให้ตำรวจในพื้นที่จัดกำลังคอยอำนวยความสะดวกไว้ให้ประชาชนแล้ว พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยสำรวจเส้นทางก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา และตรวจสอบสภาพรถให้ดีเพื่อเป็นการป้องกันการอุบัติเหตุตั้งแต่แรก

ผบ.ตร. กล่าวว่า อีกเรื่องคือมาตรการการป้องกันปัญหายาเสพติดภายในชุมชน ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของทางรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวว่าจะต้องเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันทำงานเพื่อคัดกรองบุคคลที่จะเข้าสู่กระบวนการบำบัด โดยเรื่องนี้ในแต่ละชุมชนจำเป็นต้องตอบรับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ถ้าจะให้ตำรวจไปเฝ้าดูทุกนาทีและทุกบ้าน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จึงอยากให้แต่ละชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแล ถ้าหากพบเหตุฉุกเฉินก็สามารถรีบแจ้งตำรวจในท้องที่ให้เข้าไประงับเหตุได้ในทันที อีกทั้งยังได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศตรวจความเรียบร้อยตามสถานบันเทิงต่างๆ ด้วย 

ผบ.ตร.กล่าวว่าในส่วนเรื่องอาวุธปืนที่หลายคนเข้าถึง และมีไว้ในครอบครองได้ง่ายนั้น เห็นว่าการเข้าถึงอาวุธปืนเถื่อนอยู่นอกเหนืออำนาจการดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้กฎหมายดังกล่าว

สำหรับผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในห้วงวันที่ 18 ธ.ค.ถึง 27 ธ.ค. ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถจับกุมได้ทั้งหมดกว่า 35,000 คดี ผู้ต้องหารวมกว่า 36,000 ราย จากคดีต่างๆ เช่น ยาเสพติดมากที่สุดกว่า 13,700 คดี, ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์ 3,400 คดี, การจับกุมบุคคลตามหมายจับ, การจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับซิมผีบัญชีม้า และความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน โดยส่วนใหญ่เป็นปืนไม่มีทะเบียนกว่า 5,0000 กระบอก.