ชาวนาเศร้าข้าวราคาตกต่ำลุ้นขายขาดทุนต้องรอลุ้นช่วงเม.ย.ขยับกก.ละ15-20

ชาวนาเศร้าข้าวราคาตกต่ำลุ้นขายขาดทุนต้องรอลุ้นช่วงเม.ย.ขยับกก.ละ15-20





ad1

ชาวนาขอนแก่นยังรอ คาดเดือน เม.ย.ราคาข้าวเปลือก ทะลุ กก.ละ15-20 บาท ขณะที่หลายพื้นที่ไม่มีน้ำทำนาปรังเหตุเพราะเขื่อนฯต้องกักตุนน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง เร่งปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนเพื่อให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว

เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการทำนาปรัง ที่บริเวณที่นาด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ บ.เต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังพบว่าปีนี้ในเขตดังกล่าวจะไม่มีการปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรทำนาปรังเนื่องจากต้องรักษาปริมาณน้ำเก็บกักของเขื่อนอุบลรัตน์ไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องปลูกพืชใช้น้ำน้อยในระยะนี้แทนการทำนาปรังเพื่อมีรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว

นายบุญนาค เพ็งนารินทร์ อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/2 ม.1 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า นาปีที่ผ่านมครอบครัวทำนาทั้งหมด 12 ไร่ แยกเป็นข้าวเหนียว 9 ไร่ ข้าวเจ้า 3 ไร่ โดยนาปีที่ผ่านมาได้ข้าวกว่า 300 กระสอบหรือประมาณ 10 ตัน เนื่องจากน้ำดีและมีการบริหารจัดการพื้ที่และมีการเตรียมแปลงอย่างดี แต่มาถึงช่วงนาปรังปีนี้ทางการประกาศว่าจะไม่ปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรเตรียมได้ทำนาปรัง จึงต้องวางแผนต่อว่าจะทำอย่างไรในระยะนี้

“ก็คงต้องปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนเพื่อให้มีรายได้ เพราะนาปีเราได้เงินจากการขายข้าวนับแสนบาท และผลผลิตก็ดีตามหลักวิชาการแต่พอมาถึงนาปรังเมื่อทางการประกาศขอความร่วมมือเราในฐานะเกษตรกรก็ต้องทำตามจะฝืนปลูกก็ไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ”

นายบุญนาค กล่าวต่ออีกว่า เพื่อให้มีรายจ่ายเพียงพอผ่านพ้นในช่วงนาปรัง จึงต้องเก็บผลผลิตข้าวนาปีปีนี้ ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ กก.ละ 10-12 ซึ่งถือเป็นราคาตลาดทั่วไป โดยรอช่วงเดือน เม.ย.ที่คาดว่าราคาข้าวจะขยับขึ้น กก.ละ 15-20 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจอย่างมาก ดังนั้นจึงทำการเก็บข้าวไว้ในยุ้งเพื่อรอจังหวะและราคาในช่วงดังกล่าว ซึ่งก็จะทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มเติมเข้ามาด้วยทำให้ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่เริ่มไถกลบตอซังและราดน้ำ พด.2 ย่อยสลายตอซังให้กลายเป็นปุ๋ยกันอย่างต่อเนื่องแล้ว