กระทรวงอุตฯ เตรียมจัดงานมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2566" เชิดชู 44 องค์กรต้นแบบ รับรางวัลจากนายกฯ

กระทรวงอุตฯ เตรียมจัดงานมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2566" เชิดชู 44 องค์กรต้นแบบ รับรางวัลจากนายกฯ





ad1

เมื่อวันที่  7 กุมภาพันธ์ 2567 กระทรวงอุตสาหกรรม แถลงข่าวเตรียมจัดงานมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2566" ในวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบรางวัลฯ เพื่อเชิดชูศักยภาพองค์กรต้นแบบ 44 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด "อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน" พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ความเข้มแข็ง

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2566 (The Prime Minister’s Industry Award 2023) ในวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา  ทวีสิน เป็นประธานมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการที่มีความเป็นเลิศ ทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่พัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศ 

การพิจารณารางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2566 จะมุ่งเน้นให้รางวัลกับสถานประกอบการที่มุ่งสู่การพัฒนาและปรับเปลี่ยนการประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด "อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน" โดยเน้นมาตรการและกลไกมุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ ประกอบด้วย มิติที่ 1 ความสำเร็จทางธุรกิจ มิติที่ 2 ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวม มิติที่ 3 ความลงตัวกับกติกาสากล ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว และมิติที่ 4 การกระจายรายได้สู่ชุมชนที่ตั้ง
สำหรับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2566 (The Prime Minister’s Industry Award 2023) มีจำนวน 14 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย

1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม (The Prime Minister’s Best Industry Award) จำนวน 1 รางวัล ซึ่งคัดเลือกจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเภท และเป็นสถานประกอบการที่มีการพัฒนาศักยภาพขีดความสามรถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล และมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการผลิต การบริหารจัดการ การตลาด และการลงทุน มีการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้งนวัตกรรมมาใช้ในการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของตนเอง และสามารถสร้างการพัฒนาให้กับอุตสาหกรรมในภาพรวมได้อย่างชัดเจน 

2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น (The Prime Minister’s Industry Award) แบ่งเป็น 9 ประเภท ประกอบด้วย 1) ประเภทการเพิ่มผลผลิต 2) ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3) ประเภทการบริหารความปลอดภัย 4) ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 5) ประเภทการจัดการพลังงาน 6) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน 7) ประเภทอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต 8) ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม และ 9) ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน

3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น (The Prime Minister’s Small and Medium Industry Award) แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทการบริหารจัดการที่ดี 2) ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ 3) ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม และ 4) ประเภทบริหารธุรกิจสู่สากล     

ดร.ณัฐพลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมีสถานประกอบการให้ความสนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 273 ราย แบ่งเป็นรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 3 ราย รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้ง 13 ประเภท รวม 270 ราย ซึ่งทุกรายผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะทำงานฯ แต่ละประเภทรางวัลอย่างเข้มข้น 

โดยผู้ประกอบการที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกต้องผ่านหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดหลายด้าน เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่น วิริยะอุตสาหะในการพัฒนาศักยภาพทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โลจิสติกส์และโซ่อุปทานอุตสาหกรรม และบริการแห่งอนาคต ความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งมีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 44 ราย และสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ได้แก่ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สามารถดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ.2566 ได้ที่เว็บไซต์กระทรวงอุตสาหกรรม 

ขณะเดียวกัน ในปีนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีรางวัลพิเศษ คือทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador มอบให้แก่สถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งรางวัลนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของกระทรวงอุตสาหกรรมจากภาคเอกชนที่จะเป็นต้นแบบการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมที่ดีและอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นหน่วยงานกลางในการประสานความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีผ่านการดำเนินโครงการ/กิจกรรม ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร และบริการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในขณะที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงพึ่งพาการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศสูง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องพัฒนายกระดับศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ โดยกิจกรรมหนึ่งที่สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง คือ การจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม โดย กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนามาตรฐานการประกอบการในด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและเพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของประเทศโดยรวม


3 ทีมตัวแทนภาคกลาง"Thai Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์" ตีตั๋วเข้ารอบชิงแชมป์ระดับประเทศ

จบไปแล้วกับรอบคัดเลือกโซนภาคกลาง รายการ "Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์" พร้อมได้ 3 ทีมตัวแทน ได้แก่ ทีมห้างทองเยาวราชบ้านเขว้า x น้องเชลซี, ซ้อหนิง x POP รองพีทสั่งลุย และทีมกรรณิการ์ L&H  รายการ "Thai Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์" การันตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงแชมป์ระดับประเทศต่อไป

สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนภาคกลางรายการ "Thai Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์" เมื่อวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สนาม 889 FOOTBALL CLUB พัทยา จังหวัดชลบุรี ทั้งหมด 16 ทีม ดังนี้

กลุ่ม A ได้แก่ ทีม ไก่โลเดียว X OGWEAR , พัฒนามอเตอร์ , ส.คำมี , ห้างทองเยาวราชบ้านเขว้า x น้องเชลซี
กลุ่ม B ได้แก่ ทีม สุรินทร์ เอฟซี , ซ้อหนิง x POP รองพีทสั่งลุย , Two Z fc , Super G
กลุ่ม C ได้แก่ ทีม จันทร์ Fc , ดาวเงิน 49 , กรรณิการ์ L&H , TwoP Fc
กลุ่ม D ได้แก่ ทีมน้องนาวิน x AMITY LIGHT, T&T Junior x กุ๊ดฟู๊ดแหลมฉบัง, ประภาคาร, ยิ่งใหญ่เซ็นเตอร์

โดยทีมอันดับหนึ่งของแชมป์ภาคกลาง คือ ทีมห้างทองเยาวราชบ้านเขว้า x น้องเชลซี ส่วนทีมรองอันดับ 1 ได้แก่ ทีมซ้อหนิง x POP รองพีทสั่งลุย และทีมรองอันดับสองเป็นของทีมกรรณิการ์ L&H ทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันในรายการนี้ มีทีมชั้นนำจากทั่วประเทศทั้งหมด 64 ทีม จาก 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อค้นหาตัวแทนทีมผู้ชนะเข้าไปแข่งขันในระดับประเทศ ซึ่งทางผู้จัดการแข่งขันได้สนับสนุนเงินรางวัล ชุดทีม ที่พัก และค่าเดินทางอื่น ๆ ให้กับทุก ๆ ทีม เพื่อยกระดับ ส่งเสริม พัฒนาการเล่นฟุตบอลในประเทศ ซึ่งถือเป็นเวทีสูงสุดและเป็นมิติใหม่ของรายการฟุตบอลเดินสาย สำหรับรางวัลใหญ่ของทีมแชมป์ คือ มอบทัวร์นาเม้นท์พาไปชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกถึงประเทศอังกฤษในนามแขก VIP ของสโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ด รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านบาท

กำหนดการแข่งขัน รอบคัดเลือกในแต่ละภูมิภาค
1.ภาคกลาง  วันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2567 จัดที่พัทยา จังหวัดชลบุรี
2.ภาคใต้  วันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 จัดที่ จังหวัดภูเก็ต
3.ภาคเหนือ  วันที่ 24-25 เดือนกุมภาพันธ์ 2567 จัดที่ จังหวัดลำปาง
4.ภาคอีสาน  วันที่ 9-10 มีนาคม 2567 จัดที่ จังหวัดอุบลราชธานี

และรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงเทพฯ วันที่ 30-31 มีนาคม 2567 (สนามจัดจะประกาศหลังจากจบการแข่งขันรอบภูมิภาค)

สามารถติดตามความคลื่อนไหวของรายการแข่งขันทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/THAIFUNCUP  และ www.funcupthai.com  รวมถึงรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง GoalDaddy https://www.goaldaddyth.com และช่องทางเฟสบุ๊คเพจ www.facebook.com/THAIFUNCUP  โดย GoalDaddy นั้นเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลและกีฬาโดยเฉพาะ มีข้อมูลกีฬาที่ครอบคลุม การวิเคราะห์แนวโน้มและแนวโน้มของคะแนนกีฬา ทำหน้าที่เป็นสวรรค์ที่แท้จริงสำหรับคอกีฬา ผู้ที่ต้องการความบันเทิงและอิ่มเอมใจด้วยการนำเสนอเนื้อหาวิดีโอชั้นยอด ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคุณภาพ 

ซึ่งผู้รับชมถ่ายทอดสดในช่องทางนี้จะมีสิทธิ์ลุ้นของสมนาคุณมากมาย อาทิ รถมอเตอร์ไซต์ ทีวี รถสกุ๊ดเตอร์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายรายการ สำหรับผู้รับชมในสนามจริงนอกจากจะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่กล่าวมาแล้วยังสามารถรับของชำร่วยต่าง ๆ อาทิ หมวก เสื้อ ฯลฯ ที่ทางรายการเตรียมมอบให้อีกด้วย รวมถึงทัวร์นาเม้นท์นี้รับหน้าที่ถ่ายทอดสดโดยทีมงานเทิร์นโปร มีเดีย (Turnpro Media) และบรรยายเกมส์การแข่งขันโดยทีมงานคนขายเสียง ทีมงานคุณภาพประสบการณ์ยาวนาน