เปิดปฏิบัติการ “นานาอุ่นใจ”ทลายเครือข่ายยาเสพติดชาวต่างชาติ

เปิดปฏิบัติการ “นานาอุ่นใจ”ทลายเครือข่ายยาเสพติดชาวต่างชาติ





ad1

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5  น.อ.ฤทธิรณ มงคลนำ ผบ.พัน.สห.ทอ.กรม สห.ทอ.สน.ผบ.ดม. พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตำรวจท่องเที่ยว รวมกำลังพลกว่า 200 นาย เปิดปฏิบัติการ “นานาอุ่นใจ” ลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้น ย่านนานา บริเวณตั้งแต่ สุขุมวิท ซอย 3/5/7/9/11พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “จากข้อมูลการกระทำผิด และข้อมูลการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน พบว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติจำหน่ายยาเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ จนสร้างความเดือดร้อนและทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตประชาชนทั่วไป 

นอกจากนี้ยังพบเหตุนักท่องเที่ยวชาวสวิสเซอร์แลนด์เสพโคเคนจนเสียชีวิต 1 ราย สืบสวนทำให้ทราบว่าซื้อโคเคนมาจากชาวแอฟริกันตะวันตก ย่านนานา จากสภาพปัญหายาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ส. จึงบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานภาคีลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการปราบปรามและป้องปรามปัญหาอาชญากรรมครั้งนี้ 

โดยดำเนินการตรวจค้นโรงแรม อพาร์ตเมนต์ สถานบันเทิง และตรวจสอบบุคคลที่มีความเสี่ยงกว่า 100 คน สำหรับผลปฏิบัติการการปิดล้อมตรวจค้นในวันนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 1 รายพร้อมของกลางโคเคน 3.8 กรัม (พร้อมถุงพลาสติกสำหรับแบ่งบรรจุ) และเป็นความผิดเกี่ยวกับหลบหนีเข้าเมือง (อยู่เกินกำหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต) 1 ราย ทั้งนี้ ปฏิบัติการนี้ได้เริ่มดำเนินการในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายชาวแอฟริกันตะวันตก รวมจำนวน 6 คนของกลาง โคเคน 1.45 กรัม เฮโรอีน 13.5 กรัม ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 4,600,000 บาท รายละเอียด ดังนี้ 

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 จับกุมผู้ต้องหาชาวแอฟริกันตะวันก 3 คน พร้อมโคเคน 1.45 กรัม ผู้ต้องหามีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในสถานบันเทิง 

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ กทม. จำนวน 7 จุด ซึ่งเป็นเครือข่ายชาวแอฟริกันตะวันตก จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน (หญิงไทย 1 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และชาวไนจีเรีย 2 คน) พร้อมเฮโรอีน 13.5 กรัม ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินประเภท ห้องชุด และรถยนต์ รวมมูลค่าประมาณ 4,600,000 บาท (โดยแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด)

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีเจตนารมณ์ที่จะลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดและปัญหาที่เกี่ยวเนื่องให้เห็นผลเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้เพื่อดำเนินการต่อปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและจากทั่วโลก โดยภาครัฐได้ทราบข้อมูลทางการข่าวประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งต้องขอบคุณพลเมืองดี ที่ร่วมกันแจ้งเบาะแสการค้ายาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386

เมื่อประชาชนมีความเดือดร้อนและแจ้งเบาะแสเข้ามา เราต้องไม่นิ่งนอนใจและดำเนินการต่อข้อร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้พี่น้องประชาชน รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะการดำเนินการต่อข้อร้องเรียนจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น ซึ่งการมีส่วนร่วมเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป