ภัยแล้งลามรุนแรงหมู่บ้านชายแดนศรีสะเกษขาดแคลนน้ำ ต้องซื้ออุปโภค-บริโภค

ภัยแล้งลามรุนแรงหมู่บ้านชายแดนศรีสะเกษขาดแคลนน้ำ ต้องซื้ออุปโภค-บริโภค





ad1

หมู่บ้านชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดศรีสะเกษ หมู่บ้านมีน้ำตก กำลังขาดแคลนน้ำอย่างหนัก เกือบทั้งหมู่บ้านต้องซื้อน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคจากรถน้ำในราคาแพง

ขณะนี้ชาวบ้านห้วยจันทร์ หมู่ 5 ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ติดเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนกัมพูชา เป็นหมู่บ้านที่มีน้ำตดห้วยจันทร์ ที่น้ำแห้งเช่นกัน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงและแหล่งน้ำแห้งเร็วกว่าทุกปี ชาวบ้านต้องซื้อน้ำจากรถขายน้ำมาใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม เพราะ แหล่งน้ำที่จะสูบมาผลิตน้ำประปาหมู่บ้านแห่งขอด แรกๆก็เหลืองแดงขุ่นข้น 

อุทัย สุภาพ ผู้ใหญ่บ้านห้วยจันทร์

แม้จะเปิดก็อกน้ำทิ้งไว้ทั้งคืนน้ำก็ไม่ไหล หมู่บ้านนี้มีทั้งหมดมี369ครัวเรือน 1.502 คน มี20 กว่าคร้วเรือนที่ไม่เดือดร้อนไม่ต้องซื้อน้ำ เพราะมีนัำบาดาลของตัวเอง นอกนั้นเกือบทั้งหมู่บ้านจึงต้องซื้อน้ำจากรถขายน้ำนำน้ำมาใส่โอ่งไว้ ราคารถละ100-200บาท บางครอบครัวมี 6๋-7คน ต้องซื้อน้ำทุกวัน เฉลี่ยแล้วแพงกว่าน้ำประปาหลายเท่า ต้องจ่ายค่าน้ำดื่มน้ำใช้เดือนละ1พัน2พันบาททีเดียวด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการไปอาบน้ำ ซักเสื้อผ้าที่อ่างเก็บน้ำใกล้หมู่บ้าน บางคนมีรถมีถังน้ำก็ไปขนน้ำจากอ่างเก็บน้ำมาใช้เอง

เปาะ ละออใส ชาวบ้านที่ซื้อน้ำใช้จากรถน้ำ

นายหวัน ละออใส มีรถยนต์เล็กต้องไปขนน้ำจากอ่างเก็บน้ำมาใช้ เปิดเผยว่า ต้องนำรถยนต์ขนาดเล็กพร้อมนำถังใส่น้ำขนาด 500 ลิตร จำนวน 2 ถัง เพื่อ ไปใส่น้ำจากคลองชลประทานเขื่อนห้วยตาจู นำน้ำไปใช้ในครัวเรือน ทั้งใช้อาบ ใช้ซักผ้าและล้างถ้วยจาน  และต้องออกไปขนน้ำแทบทุกวันเนื่องจากมีคนในครอบครัว 7-8 คน ทำให้การใช้น้ำในครัวเรือนไม่เพียงพอ จากสภาพที่แห้งแล้ง ที่ยังไม่มีฝนตกลงมา

หวัน ละออใส ต้องเอารถยนต์ไปขนน้ำจากอ่างเก็บน้ำมาให้ลูกหลานใช้

นายอุทัย สุภาพ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ปีที่ผ่านมาในฤดูฝนมีฝนตกลงมาเพียงแค่น้อยนิด และส่วนใหญ่ในช่วงเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม จะประสบปัญหากับความแห้งแล้ง ชาวบ้านที่มีรถยนต์ก็จะนำถังน้ำขนาดใหญ่ประมาณ 1,500 ลิตร ใส่น้ำนำไปขายให้กับชาวบ้านมีราคาเที่ยวละ 100 บาท ให้ชาวบ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้ และในส่วนของคนขายน้ำจะไม่ขายในราคาที่แพงเกินไป เพื่อบรรเทาทุกให้กับชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ถึงแม้ว่าหมู่บ้านนี้จะชื่อ บ้านน้ำตกห้วยจันทร์ เป็นบ้านที่มีน้ำตก แต่เมื่อถึงฤดูแล้งก็แล้งจนไม่มีน้ำใช้  บางพื้นที่ชาวบ้านต้องเจาะบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำขึ้นมาใช้ แต่ก็ต้องประสบปัญหาไม่มีตาน้ำแม้จะเจาะลึกถึง 120 เมตร ก็ไม่มีน้ำ ซึ่งหน้าแล้งในปีนี้คาดว่าจะแห้งแล้งอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

นายอุทัย กล่าวอีกว่า บ้านน้ำตกห้วยจันทร์ มีชาวบ้านอาศัยทั้งหมด 444 ครัวเรือน ชาวบ้านที่ไม่เดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำมีเพียง 20 % เท่านั้น นอกนั้นต้องซื้อน้ำใช้ โดยแต่ละครัวเรือนเดือนนึงจะเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำ ประมาณ 2,000 บาท ทำให้ชาวบ้านเกิดวิกฤติค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 

นางเป๊าะ ละออใส อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 187 บ้านน้ำตกห้วยจันทร์  บอกว่า ในแต่ละปีเมื่อหมดฤดูฝน ก็ต้องซื้อน้ำใช้ ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งซื้อน้ำมาใช้ภายในครัวเรือนเป็นเวลา 3 เดือนมาแล้ว ซึ่งถ้าเข้าช่วงหน้าแล้งก็จะต้องซื้อน้ำใช้เป็นประจำ  ไปจนกว่าจะถึงหน้าฝน ในครัวเรือนของตนจะซื้อน้ำใช้ครั้งละ 300 บาท ใช้ได้ประมาณ 3-4 วัน ก็หมด ถึงแม้จะต้องควักเงินจ่ายแพงกว่าการใช้น้ำประปา ก็ต้องยอมเพราะไม่มีน้ำจะใช้ ซึ่งในแต่ละเดือนตนต้องจ่ายเงินซื้อน้ำหมดไปเดือนละ 2,000 บาท นอกจากนี้ยังต้องซื้อน้ำดื่มอาทิตย์ละ 100 บาทอีกด้วย

นายวุฒิไกร ละออใส คนขายน้ำเปิดเผยว่า ช่วงน้ชาวบ้านเริ่มสั่งซื้อน้ำใช้เป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันตนต้องขนน้ำไปขายให้กับชาวบ้านวันละ 7-8 เที่ยวต่อวัน ซึ่งน้ำที่นำไปขายให้กับชาวบ้านเป็นน้ำบาดาล ขายในราคา 100 บาท จำนวนน้ำ 200 ลิตร ในแต่ละวันจะขายน้ำได้วันละ 700-800 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือ 500 บาท ซึ่งตนทำอาชีพนี้มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว และปีนี้หน้าแล้งมาเร็ว คาดว่าจะมีชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำใช้สั่งซื้อน้ำจากตนเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก

โดย...เสนาะ วรรักษ์/รายงาน