กมธ.อุตสาหกรรมหนุนนายกฯสั่งให้ 6 หน่วยงานร่วมแก้ปัญหากากแคดเมียม 3 เรื่องเร่งด่วน

กมธ.อุตสาหกรรมหนุนนายกฯสั่งให้ 6 หน่วยงานร่วมแก้ปัญหากากแคดเมียม 3 เรื่องเร่งด่วน





ad1

กมธ.อุตสาหกรรมหนุนนายกฯสั่งให้ 6 หน่วยงานร่วมแก้ปัญหากากแคดเมียม แนะต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลาแก้ปัญหา 3 เรื่องเร่งด่วน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน พร้อมชื่นชมบก.ปทส.ทำงานรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพหลักทำงานบูรณาการร่วมกัน 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ประชุมร่วมกันเพื่อแก้ปัญหากากแคดเมียม 

ทั้งนี้ ลำพังกระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาในเวลาที่จำกัดได้ ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะกากแคดเมียมยังต้องตามหาอีกหลายพันตัน กากเคดเมียมที่เจอในตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ถ้าเป็นแคดเมียมที่ขนมาจากจังหวัดตาก ก็ยังเหลืออีก 4,000กว่าตันที่ยังหายไป ตรงนี้ต้องเร่งค้นหาต่อว่าไปอยู่ที่ไหน

นายอัครเดช กล่าวว่า ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องทำมี 3 เรื่องคือ 1.ต้องเร่งหากากแคดเมียมที่เหลือให้เจออย่างเร่งรวดเร็ว 2.ต้องเร่งย้ายและฝังกลบกากแคดเมียมกว่า 8,000 ตันที่เจอแล้วก่อนหน้านี้ รวมกับที่เจอในตำบลนาดีในวันนี้อีกที่ต้องเร่งขนย้ายและฝังกลบ และ 3.ต้องเร่ง ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบโรงงานที่เจอสารแคดเมียม ตรวจสอบทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ และตรวจสอบสภาพแวดล้อมว่ามีสารพิษตกค้างหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการเยียวยารักษาบุคคลที่ได้รับสารพิษ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กับคืนมาปลอดภัยเหมือนเดิม ถือเป็น 3 เรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ ส่วนการหาตัวผู้กระทำความผิดเอาไว้ทีหลังเป็นขั้นตอนต่อไป แต่ต้องเร่งดำเนินการใน 3 ข้อที่ตนได้กล่าวไว้ก่อนเพื่อควบคุมพื้นที่และคุมสถานการณ์ให้ได้ 

ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีสั่งการถือว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา เร่งทำ 3 ข้ออย่างเร่งด่วน ในส่วนของกมธ.อุตสาหกรรมในฐานะผู้เปิดประเด็นนี้ให้สังคมและหน่วยงานรัฐรับทราบจะทำหน้าที่ในการติดตามการทำงานของภาครัฐในกรณีนี้อย่างเข้มข้นต่อไป โดยในวันที่ 17 เมษายนนี้จะมีการประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานเพื่อให้หน่วยงานทุกหน่วยงานที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้บูรณาการร่วมกันแจ้งผลความคืบหน้าในการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาซึ่งมี 5 หน่วยงานเดิมที่เชิญมาอยู่แล้วแต่จะเชิญเพิ่มอีก 1 หน่วยงานคือดีเอสไอมาชี้แจงด้วยเพราะเป็นหน่วยงานที่นายกฯได้ตั้งให้ทำงานร่วมกัน

“สิ่งที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ 6 หน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหากากแกดเมียม ถือว่าไม่ช้าเกินไป ผมถือว่านายกฯมาถูกทางแล้วที่ต้องให้ 6 หน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน ทำงานแข่งกับเวลา ถ้าปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไปก็จะยิ่งเกิดอันตรายกับประชาชน และขอชื่นชมกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติละสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.)ที่ทำงานนี้ได้อย่างรวดเร็ว”นายอัครเดชกล่าว