ร้อนฉ่า!ก้าวไกล-ปชป.ถล่ม "แพทองธาร" ฟาด ธปท.อย่าโยนบาปให้คนอื่น

ร้อนฉ่า!ก้าวไกล-ปชป.ถล่ม "แพทองธาร" ฟาด ธปท.อย่าโยนบาปให้คนอื่น





ad1

จากกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวบนเวที “10 เดือน ที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” พาดพิงทำนองตำหนิธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจ เป็นอิสระจากรัฐบาล มากเกินไป จนกลายเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จุดประเด็นให้ฝ่ายค้านนำมาตอกย้ำ สะท้อนภาพฝ่ายการเมืองพยายามแทรกแซงการทำงานของ ธปท.

นายณัฐชา หรือกาย บุญไชย อินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจ เป็นอิสระจากรัฐบาลมากเกินไป จนกลายเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจว่า งานแสดงผลงานที่ช่วงชิงอำนาจจากผู้ชนะการเลือกตั้ง มา 10 เดือน ไม่แปลกใจสำหรับคนที่จัดงานเพื่อแก้ตัวแก้ต่างให้ตัวเอง แต่การพูดบนเวทีในเรื่องที่ไม่ควรพูด ในฐานะหัวหน้าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ทั่วโลกเขารู้ว่านโยบายทางการเงินนโยบายทางการคลัง ไม่มีการแทรกแซงกัน วันนี้หลายคนอาจรู้ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ อาจไม่ค่อยชอบผู้ว่าการ ธปท. และยิ่งตอกย้ำไปกันใหญ่ว่าหัวหน้าพรรค พท. พูดแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นสคริปต์ที่เตรียมเอาไว้ หรือเพิ่งฟังกันในวงกาแฟหน้าห้องพรรค พท. ที่ผู้บริหารพรรค พท. อาจพยายามที่จะทำอย่างไรก็ได้ ที่บีบผู้ว่าการ ธปท.ให้เห็นด้วยกับนโยบายของตนเองคิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น การจัดเวทีแสดงผลงานไม่ควรที่แสดงออกมาแบบนี้ ไม่ใช่แค่ทำให้ประชาชนคนไทยเดือดร้อน แต่มีนักลงทุนต่างชาติที่ดูอยู่ด้วย

นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน

ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชา ธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวเรื่อง “เมื่อดีเอ็นเอ ทักษิณกำเริบ คิดรบกับแบงก์ชาติ” เนื้อหาระบุว่าเห็นข่าวอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดีเอ็นเอทักษิณ บริภาษแบงก์ชาติไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจ พาดพิงไปถึงกฎหมายว่าให้อิสระกับแบงก์ชาติจากรัฐบาลมากเกินไป กลายเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ช่วยใช้นโยบายการเงินมาคู่ขนานกับนโยบายการคลังผลักภาระว่า หนี้ของประเทศที่สูงขึ้นเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ หนี้สะสมของประเทศ ส่วนใหญ่เกิดจากนโยบายลดแลกแจกแถม ที่สร้างหนี้เพิ่มพูนให้ประเทศเรื่อยๆ โดยปราศจากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพราะการเล็งหวังผลของนักการเมืองที่ปราศจากความรับผิดชอบ เข้ามาแล้วก็จากไป แต่แบงก์ชาติเขาเป็นธนาคารกลางมีหน้าที่หลัก ต้องรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงิน เสถียรภาพด้านราคา (เงินเฟ้อ) และดูแลไม่ให้เศรษฐกิจผันผวน หรือร้อนแรงเกินไป จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเกือบทุกประเทศในโลกนี้ล้วนให้อิสระกับแบงก์ชาติทั้งสิ้น เพราะถ้าปล่อยให้ละเลงกันตามอำเภอใจ กระตุ้นเศรษฐกิจตามใจอยาก แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นพายุหมุนอย่างที่คุย กลับเป็นผลร้ายกลายเป็นสึนามิทางเศรษฐกิจ จะกลายเป็นภาระให้ประชาชนทั้งชาติต้องแบกหนี้กันหลังอาน เศรษฐกิจที่คิดว่าจะเดินหน้าอาจถดถอยลงแบบกู่ไม่กลับ

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ก่อนเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2567 ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พูดบนเวที “10 เดือนที่ไม่รอทำต่อให้เต็ม 10” ระบุ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นเศรษฐกิจ ว่า ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าเรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญ เป็นรายจ่ายที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นที่ น.ส.แพทองธาร พูด เป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวเข้าใจในความอิสระของแบงก์ชาติ มั่นใจว่าทำงานร่วมกันและให้เกียรติมาโดยตลอด เมื่อมีข้อเรียกร้องจึงได้เรียกร้อง เมื่อต้องพูดคุยก็พูดคุยกับเรื่องดอกเบี้ยที่เห็นว่าควรต้องปรับลดลง แต่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีเหตุผลที่จะไม่ปรับลด รัฐบาลจึงต้องเดินหน้าพูดคุยกับ 4 ธนาคารใหญ่เพื่อให้ลดดอกเบี้ยลง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการทำงานยึดโยงกับประชาชนจากที่ลงพื้นที่รับฟังมาโดยตลอด และการลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด จะรับฟังปัญหานี้ต่อไป

“ความเป็นอิสระก็เรื่องหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าการมาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ สถาบันการเงิน นักการเมือง เรามาอยู่เพื่อประชาชน แต่วิธีการแก้ไขปัญหาแตกต่างกันไป ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์กันได้”