บูมท่องเที่ยว!ไทยลุยเปิดวิ่งรถบัสนำเที่ยวไทย-มาเลเซียระหว่างรอเอ็มโอยู

ไทยเดินเครื่องก่อนเปิดวิ่งรถบัสโดยสารนำเที่ยวไทย-มาเลเซีย ระหว่างรอ MOU ไทย มาเลเซีย ต้อนรับเทศกาลกินเจ สงขลา ตรัง ภูเก็ต เทศกาลประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุพระบรมมหาเจดีย์ นครศรีธรรมราช  เงินสะพัดหลายร้อยล้านบาท

นายจรูญ แก้ววจีทรัพย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ทำหนังสือตอบรับทางสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง ที่ได้ทำหนังสือลงวันที่ 8 เมษายน 2567 สอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องการติดตามขอให้พิจารณายกเลิกประกาศจังหวัดสงขลาเรื่องการอนุญาตนำรถโดยสารที่จดทะเบียนต่างประเทศเข้ามา จ.สงขลา ฉบับลงวันที่ 25 สิงหาคม 2557  ซึ่งทางสมาคมฯ ขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในประเด็นการติดตามความคืบหน้าให้พิจารณายกเลิกประกาศจังหวัดจังหวัดสงขลา

โดยทางกรมการขนส่งได้ชี้แจงว่าเดิมการออกประกาศกรมการขนส่ง ฉบับที่ 7/2558  เรื่องการนำรถโดยสารจดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหารถโดยสารของประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่ได้เดินทางเข้ามาในไทยได้ขัดต่อ พรบ.การขนส่งทางบก พศ. 2522 มาตรา 26 และยังเป็นการทำลายธุรกิจการขนส่งภายในประเทศ

จึงได้มีการประกาศเพื่อเป็นมาตรการจัดระเบียบ ซึ่งให้เข้ามาเดินรถในประเทศได้แต่ต้องภายใต้เงื่อนไขเพื่อสงวนไว้ของภาคธุรกิจขนส่งของไทย

แต่ต่อมาทาง จ.สงขลา  ก็ได้ออกประกาศจังหวัดสงขลา ฉบับลงวันที่ 25 สิงหาคม 2557 เรื่องการอนุญาตนำรถโดยสารที่จดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาใน จ.สงขลา  ซึ่งมีผลทำให้รถโดยสารที่จดทะเบียนต่างประเทศที่นำนักท่องเที่ยเข้ามาใน จ.สงขลา สามารถเข้าถึงทุกอำเภอได้  และส่วนที่ประสงค์เดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ ก็จะต้องยื่นขออนุญาตต่อกรมการขนส่งทางบก เป็นการล่วงหน้า เมื่ออนุญาตแล้วจึงออกได้  โดยให้สามารถดำเนินการได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557 ทั้งนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวและยังได้คุ้มครองภาคธุรกิจการขนส่งของไทย

ทางกรมการขนส่งทางบก จึงได้มีข้อเสนอให้มีการประสานงานความร่วมมือไปยังระหว่างภาคธุรกิจการท่องเที่ยวโดยให้สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง และในจังหวัดใกล้เคียง และรวมถึงภาคธุรกิจการขนส่งได้พูดกันหารือถึงแนวทางในการดำเนินการ และรูปแบบของการดำเนินการธุรกิจเพื่อให้สมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้ MOU ว่าด้วยการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามแดนระหว่างไทย มาเลเซีย เพื่อให้สิทธิซึ่งกันและกัน ซึ่งทางประเทศมาเลเซียยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสุดท้ายของMOU ซึ่งทั้งฝ่ายไทย ฝ่ายมาเลเซีย จะได้นำรถโดยสารนำนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ทั้ง 2 ประเทศ โดยฝ่ายผู้ประกอบการขนส่งไทยก็สามารถนำรถโดยสารนักท่องเที่ยวจากไทยไปมาเลเซีย และฝ่ายมาเลเซียก็นำรถโดยสารนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทยได้

นายจรูญ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ MOU ฝ่ายมาเลเซียกว่าจะลงนามแต่ในส่วนฝ่ายไทยทางกรมการขนส่งทางบกจะมีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการขนส่งนำเที่ยวไทยในไตรมาส 4 ปี 2567 เพื่อหาทางออกในการดำเนินการขนส่งโดยสารไปก่อน

“คาดว่าจะมีทางออกไปในทิศทางที่ดี ที่สามารถจะดำเนินการอนุโลมให้ฝ่ายไทยให้กับนำเที่ยวมาเลเซียสามารถนำรถโดยสารนำเที่ยวบริการไปก่อนได้ในการหารือกัน”

นายทรงชัย มุ่งประสิทธิชัย นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะที่ไทยที่กำลังรอ MOU จากประเทศมาเลเซียเรื่องรถโดยสารการท่องเที่ยวไทย มาเลเซีย โดยในส่วนของไทยเห็นควรเปิดก่อนโดยทำการอนุญาตให้รถโดยสารนำเที่ยวมาเลเซียเมื่อเข้ามายัง จ.สงขลา ก็สามารถขออนุญาตไปยังกรมการขนส่งทางบกไปก่อน เพื่อเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศไทยทางภาคใต้ได้ก่อน

“การรอระยะการลงนาม MOU จากฝ่ายมาเลเซียน่าจะต้องรอระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในขณะที่รอทางกรมการขนส่งทางบกก็เปิดโอกาสให้รถโดยสารนำเที่ยวมาเลเซียไปก่อน ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศไปก่อน”

นายทรงชัย กล่าวอีกว่า เนื่องจากเดือนตุลาคม 2567 มีโปรแกรมการท่องเที่ยวใหญ่สำคัญคือเทศกาลกินเจ จำนวน 10 วัน ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งจะเดินทางมากินเจร่วมทำบุญเป็นประจำทุกปีทั้งที่ 1. อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  2. จ.ตรัง และ 3. จ.ภูเก็ต โดยจะมีชาวมาเลเซียเข้ามาประมาณ 10,000 คน

“แต่ละคนจะมีกำลังซื้อประมาณ 10,000 บาท จะมีเงินหมุนสะพัดภายในพื้นที่ประมาณ 100 ล้านบาท”

เมื่อสิ้นสุดเทศกาลกินเจจะถึงสิ้นปี 2567 เทศกาลปีใหม่ ถัดไปเทศกาลตรุษจีน และเทศกาลงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ. นครศรีธรรมราช ในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน 2568 ซึ่งเฉพาะเทศกาลประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ชาวมาเลเซียจะให้ความศรัทธานิยมจะหลั่งไหลมาบุญไม่ต่ำกว่า 30,000 คน จะมีเงินหมุนสะพัดไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ยังไม่ร่วมถึงเทศกาลตรุษจีน และเทศกาลปีใหม่

แหล่งข่าวจากผู้บริหารและเจ้าของบริษัททัวร์นำเที่ยวไทย มาเลเซีย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการที่รถขนส่งโดยสารนำเที่ยวมาเลเซียขออนุญาตการเดินทางรถโดยสารนำเที่ยวมาเลเซียออกจาก จ.สงขลา ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ต่างได้รับการคัดค้านจากรถบัสโดยสารนำเที่ยวฝ่ายไทย เพราะได้รับผลกระทบไทยสูญเสียผลประโยชน์

และในที่สุดมีการประชุมร่วมกัน จึงได้ให้รถขนส่งโดยสารนำเที่ยวไทย สามารถบรรทุกนักท่องเที่ยวมาเลเซียจากจุดที่จอด จ.สงขลา แล้วนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเปลี่ยนมาขึ้นรถโดยสารนำเที่ยวฝ่ายไทย เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดต่างในภาคใต้  แต่ปรากฏว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียไม่ได้ใช้บริการเดินทางออกนอกพื้นที่ จ.สงขลา และจะท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง

ในที่สุดได้ส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เช่น ฤดูกาลเทศกาลสำคัญ เช่น เทศการประเพณีกินเจ จ.ตรัง จ.ภูเก็ต เทศกาลประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้ได้รับความสูญเสียเป็นเงินมหาศาลมานับ 10 ปี

แหล่งข่าว กลาวอีกว่า เหตุผลที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ยินยอมเปลี่ยนจากรถเพราะว่าต้นทุนการท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นมาก ประมาณกว่าวัน 500 บาท และ 600 บาท โดยประมาณ 3 วัน/ คน  เป็นเงินกว่า 1,000 บาท / คน จำนวน 3 วันนักท่องเที่ยวจึงงดการเดินทางไปทำบุญและท่องเที่ยว จ.ตรัง ภูเก็ต และ จ.นครศรีธรรมราช. ฯลฯ.