อว. ย้ำ บทบาทการเป็นผู้นำอาเซียนด้านการเคลื่อนย้ายบุคลากรและการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 88 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (the 88th Meeting of ASEAN Committee on Science, Technology and Innovation (COSTI-88) and Related Meetings) ระหว่างวันที่ 19-24 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมจุบิลี เพรสทีจน์ รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ และผ่านวีดิทัศน์ทางไกล โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ทั้งสิ้น 295 คน ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ติมอร์-เลสเต ประเทศคู่เจรจา สำนักเลขาธิการอาเซียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การประชุม COSTI-88 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ประชุมหารือความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ภายใต้กรอบอาเซียน และรายงานข้อมูลสถานะการดำเนินกิจกรรม/โครงการความร่วมมือของแต่ละประเทศในอาเซียน รวมถึงการแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการพัฒนา วทน.และแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เน้นถึงบทบาทของประเทศไทยในการเป็นผู้นำอาเซียนด้านการเคลื่อนย้ายบุคลากรและการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย โดยกล่าวถึงโครงการที่สำคัญ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1) ASEAN Talent Mobility (ATM) Platform แพลตฟอร์มเคลื่อนย้ายบุคลากร นักวิจัย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ระหว่างประเทศอาเซียน โดยเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลของนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง ๆ ของอาเซียน ส่งผลให้การจับคู่ทางการวิจัย (research matchmaking) เป็นไปได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 และ 2) โครงการ ASEAN Regional ResearchInfrastructure ส่งเสริมการใช้ประโยขน์โครงสร้างพื้นฐานการวิจัยร่วมกันในอาเซียน ข้อตกลงเพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูล การใช้ห้องปฏิบัติการ (research laboratory) และพัฒนางานวิจัยร่วมกัน ซึ่งทั้งสองโครงการประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มและมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (ASEAN COSTI) ทั้งนี้ คณะกรรมการอาเซียนด้าน วทน. ได้ให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์อาเซียนว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานงานวิจัย ซึ่งจะเป็นร่มใหญ่ในการขับเคลื่อนและเปิดโอกาสให้อาเซียนได้เข้าถึงห้องปฏิบัติการระดับโลก

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังได้รายงานกิจกรรมความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลี ในฐานะประเทศ ผู้ประสานงาน (Country Coordinator) รวมถึงการหารือแนวทางในการดำเนินกิจกรรมกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และหน่วยงานวิชาการอื่น ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม 2026-2035 (ASEAN Plan of Action on Science, Technology and Innovation 2026-2035: APASTI) และนโยบายด้านต่างประเทศของไทย