ตร.ออกหมายเรียก "ปริญญ์" รับทราบข้อหาอนาจาร-พรากผู้เยาว์ -ผู้เสียหาย 12 คดี ไม่มี่ใครถอนแจ้งความ

ตร.ออกหมายเรียก "ปริญญ์"

ตร.ออกหมายเรียก "ปริญญ์" รับทราบข้อหาอนาจาร-พรากผู้เยาว์ -ผู้เสียหาย 12 คดี ไม่มี่ใครถอนแจ้งความ





ad1

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 27 เมษายน ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.ดูแลด้านกฎหมายและคดี เดินทางมาเพื่อเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรอง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ กับหยื่อหญิงสาวหลายราย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า หลังจากการประชุม ทราบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคดีที่ สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอเเล้ว วันนี้ได้ขอศาลออกหมายจับในข้อหา “พรากผู้เยาว์” เเละ “กระทำอนาจาร” เเต่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเเทน โดยศาลได้ให้ความเห็นว่าผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน และมีคดีในชั้นศาลแล้ว 4 คดี และได้ประกันตัวในชั้นศาล ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล้าวหาที่ สน.ห้วยขวาง ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น.

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการแจ้งความที่ สน.ลุมพินี 9 คดี สน.ห้วยขวาง 1 คดี สภ.เมืองเพชรบุรี 1 คดี และ สภ.เมืองเชียงใหม่ 1 คดี ยังไม่มีรายใดถอนแจ้งความ เเละขณะนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเเละสอบปากคำใกล้เสร็จสิ้นเเล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้ ส่วนคดีที่จังหวัดเชียงใหม่เเละเพชรบุรี ก็ให้เเต่ละพื้นที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้ตำรวจไม่มีความกังวลใจในสำนวนคดีเเละพยานหลักฐานต่าง ๆ เเม้ว่าจะเกิดเหตุกับผู้เสียหายเเต่ละรายมานานเเล้ว เเต่หลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นได้สอบปากคำเสร็จไปเเล้ว 3 คดี ส่วนคดีอื่น ๆ หากจำเป็นต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ยืนยันตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เเม้เเต่ตัวผู้ต้องหาเองก็สามารถเเสวงหาพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนได้

อย่างไรก็ตามรอง ผบช.น. ชี้แจงสาเหตุที่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ แต่กลับให้ออกหมายเรียกแทน เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว 4 คดี เเละมีเงื่อนไขในการประกันตัว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับซ้ำในคดีที่มีลักษณะเดียวกัน ส่วนข้อกังวลว่าผู้ต้องหาว่าผู้ต้องหาจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเเละผู้เสียหายนั้น ในเงื่อนไขการประกันตัวระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มิเช่นนั้นจะถูกถอนประกันตัวทันที ซึ่งขณะนี้ตั้งเเต่ดำเนินคดีไป ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาเเจ้งว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน