ทูตอินโดนีเซียยกร.ร.อัตตัรกียะห์นราธิวาสโมเดลการพัฒนาศึกษาก้าวหน้า

ทูตอินโดนีเซียยกร.ร.อัตตัรกียะห์นราธิวาสโมเดลการพัฒนาศึกษาก้าวหน้า





ad1

นราธิวาส-เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย เยือน ร.ร.อัตตัรกียะห์  ชี้เป็นโมเดลการพัฒนาศึกษาก้าวหน้า อีกทั้งเป็นข้อต่อสำคัญ เชื่อมสัมพันธ์ไทย-อินโด และอยากขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ เพื่อให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 

นายไพศาล ตอยิบ ผู้รับใบอนุญาตและผู้จัดการโรงเรียนอัตตัรกียะห์ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคการศึกษา และผช.เลขานุการคณะทำงานระดับพื้นที่  หรือ สล.3 ได้ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน (H.E.Mr.Rachmat Budiman ) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยและคณะฯ ที่ห้องประชุมดาวูดคอนเฟอเรนซ์ โรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ซึ่งได้ปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคใต้และมาเยี่ยมเยือนจังหวัดนราธิวาส โดยเดินทางมายังโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ เพื่อร่วมประชุมพบปะรับฟัง สานต่อกิจกรรมทางด้านการศึกษาทางมีร่วมกันให้แก่เยาวชนในพื้นที่ ร่วมถึงการเชื่อมความสัมพันธไมตรีที่มีระหว่างกันอย่างยาวนาน 

นายไพศาล ตอยิบ กล่าวถึงสัมพันธไมตรีของอัตตัรกียะห์กับทางประเทศอินโดนีเซีย โดยนำกระบวนการทางการศึกษามาเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับหลายมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา และโรงเรียนต่างๆในประเทศอินโดนีเซีย กว่า 12  แห่ง ได้มีการดำเนินงานมากว่า 11 ปี อาทิ เมืองมาลัง เมืองบันดุง เมืองเรียว เป็นต้น ทั้งนี้มีการส่งนักเรียนและบุคลากรครูไปแลกเปลี่ยนยังประเทศอินโดนีเซีย ทางอินโดนีเซียจัดส่งนร.และบุคลากรครูมาแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทย ศึกษาวิจัยหลักสูตรเพื่อชุมชน เป็นต้น จากนี้ต่อไปทางอัตตัรกียะห์ยังคงสานต่อภารกิจส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและวัฒนธรรมให้แก่เยาวชนต่อไป 

ถึงแม้สถานการณ์การแพรีระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังคงระบาดและเป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่ทางโรงเรียนอัตตัรกียะห์ไม่เคยหยุดนิ่ง มีการพัฒนาการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาโดยนำเทคโนโลยีและการสื่อสารบนโลกโลกออนไลน์มาเป็นตัวเชื่อมและหนุนเสริมเพื่อให้การส่งเสริมทักษาการเรียนของนักเรียนไม่สะดุดและขาดตอนไป และอัตตันฯ จะยังเป็นข้อต่อ แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ที่เป็นกลไกสำคัญ เชื่อมต่อความสำพันธ์ ไทยและอินโดนีเซีย ทั้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศไทย

ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน (H.E.Mr.Rachmat Budiman ) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า เห็นการศึกษาของโรงเรียน อัตตัรกียะห์ จ.นราธิวาส แล้ว ถือเป็นโมเดลสำคัญ มีการสอนทั้งศาสนา และสายสามัญ สอนภาษาไทย มลายู อังกฤษ จีน และภาษาอื่นๆ มีการทำ MOU ระหว่าง โรงเรียน มหาลัย กับ สถาบันการศึกษา ประเทศอินโดนีเซีย แลกเปลี่ยนครู นักศึกษามายาวนาน เป็นความแน่นแฟ้น  เป็นกลไกสำคัญ ที่สถานศึกษาอัตตัรกียะห์ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มองเห็นความสำคัญและมองเห็นอนาคต ของบุตรหลาน คนในพื้นที่ เพราะการศึกษา จะช่วยได้ในหลายๆเรื่อง อาทิ สติปัญญา กาตัดสินปัญหา การงาน และสร้างและการพัฒนาสู่พื้นที่ 

ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ยังกล่าวอีกว่า อินโดนีเซีย มีความหลากหลายของชาติพันธ์ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย มายาวนาน  ก่อนที่อินโดนีเซีย จะได้รับเอกราช หรือ MEDEKA เมื่อวันที 17 สิงหาคม 1945 และอินโดนีเซียก็มีปัญหา แต่ได้รับความร่วมมือจากรัฐ และประชาชนทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ในการสร้างประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นคงได้   จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของไทย ก็มีความหลากหลาย ซึ่งวัฒนธรรม ภาษา ประเพณี สอดคล้อง หรือเหมือนและคล้ายกันกับอินโดนีเซีย  และอยากเห็นคนพื้นที่ สร้างความรัก ความสามัคคี ต่อกัน ร่วมคิดร่วมทำ และนำสู่ความร่วมมือ เพื่อแก้ปัญหาให้พื้นที่เกิดความสงบสุข หรือสันติสุข กลับคืนพื้นที่ประชาชน  ซึ่งอินโดนีเซียพร้อมที่จะสนับสนุน และให้ความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป