สันธนะ แฉ 7 ผู้เสียหายถูกบ่อนอุ้มรีดทรัพย์

สันธนะ แฉ 7 ผู้เสียหายถูกบ่อนอุ้มรีดทรัพย์

สันธนะ แฉ 7 ผู้เสียหายถูกบ่อนอุ้มรีดทรัพย์





ad1

สันธนะ แฉ 7 ผู้เสียหายถูกบ่อนอุ้มรีดทรัพย์ แต่งเรื่องถูกคลุมถุงดำ-ซ้อมทรมาน หลังเคลียร์เงินไม่ลงตัว พร้อมโชว์หลักฐานผู้เสียหายเป็นแก๊งตระเวนโกงตามบ่อนต่างๆ มีเครื่องสแกนรู้ไพ่

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล นำหลักฐานเป็นรูปภาพ และข้อความการพูดคุยผ่านแชท มามอบให้พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม โดยมี พ.ต.ท.เดชาวัฒน์ ขันกสิกรรม รอง ผกก. สอบสวน รับเอกสารหลักฐาน เพื่อให้ตรวจสอบผู้เสียหายทั้ง 7 คน ที่เคยมาแจ้งความว่าถูกเจ้าของบ่อนอุ้ม รีดเงิน 5 ล้าน เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

นานสันธนะ บอกว่า จากข้อมูลที่มีพบว่าผู้เสียหายทั้ง 7 คน เป็นแก๊งค์ที่ตระเวนไปเล่นการพนันตามบ่อนต่าง ๆ ในพื้นที่ กทม.และโกงเงินบ่อนการพนันด้วยวิธีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเครื่องสแกนไพ่ และวิธีการต่างๆ ซึ่งในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายมาด้วยกัน 10 คน ถูกบ่อนจับได้ 7 คน อีก 3 คนหลบหนีไปไดั ซึ่งทั้งหมดได้เงินจากการโกงพนันเสือมังกร เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ในเวลาเพียง 5 วัน โดยพยานหลักฐานสำคัญ คือข้อความในโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ใช้ชื่อ “เก้า กระเทย” และอ้างตัวว่าทางบ่อนรีดเงินไป 3 ล้านบาท จึงจะนำหลักฐานเหล่านี้ไปมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ในการตรวจสอบแก๊งค์นี้ว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริงหรือไม่

พร้อมยืนยันว่าจากข้อมูลที่ตัวเองได้มา ในวันเกิดเหตุไม่มีการใช้ถุงดำคลุมหัว และทำร้ายร่างกายตามที่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ ส่วนที่ตัวเองออกมาเปิดเผยข้อมูล ต้องการเตือนและให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนไม่ให้หลงประเด็น และไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของแก๊งนี้ ซึ่งมีสื่อบางสำนักเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์จากเงินส่วนแบ่งหนึ่งล้านแปดแสนบาทที่บ่อนยังค้างจ่ายให้แก๊ง

นายสันธนะ ยังพูดถึงเพจสายไหมต้องรอดด้วยว่า การที่เพจเหล่านี้ออกมาช่วยเหลือหรือเปิดเผยข้อมูลก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้บ่อนการพนันในกรุงเทพฯ หมดไป แต่อยากให้ทำเพื่อสังคมจริง ๆ และเตือนนักพนันว่าหลังจากนี้จะไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ แล้ว อย่าหลงเชื่อใครหากมีมีคนมาชักชวนไปเล่นการพนันตามห้องพักหรือคอนโดมิเนียมต่าง ๆ อย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกโกงจนหมดตัว