ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด ตำรวจ 6 นายรุมพ่อค้าจนแขนหัก

ทนายโป้งพาพ่อค้าลูกชิ้นทอดเข้าแจ้งความ เอาผิด 6 ตำรวจทำร้ายร่างกายระหว่างแสดงตัวจับกุมจนแขนซ้ายหัก ยืนยันจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
.
วันที่ 1 ก.พ. 65 จากกรณีนายสหรัช (สงวนนามสกุล)  อายุ 28 ปี พ่อค้าลูกชิ้นทอดพร้อมด้วยเดินทางเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมจากนายเกียรติคุณ  ต้นยาง หรือทนายโป้งประธานชมรมทนายความจิตอาสา ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจรวมทั้งหมด 6 นาย ตบและล็อกแขนและคอจับกุมจนแขนซ้ายหัก โดยแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่  และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฏหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ ทั้งที่ไม่ได้ต่อสู้และหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดบริเวณหน้าปั้มน้ำมันบางจาก ถ. พิบูลสงคราม อ.เมืองนนทบุรี วันที่ 25 ม.ค. 65 เวลา 23.55 น.
.
วันนี้ทนายโป้งได้พาผู้เสียหายพร้อมหลักฐานเพิ่มเติมเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ว่าทำการเกินกว่าเหตุ โดยนายสหรัชได้ให้การกับพนักงานสืบสวนเป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง หลังให้ปากคำเสร็จได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ยืนยันว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด ส่วนเรื่องไม่รับเงินเยียวยานั้น ผู้เสียหายเล่าว่าก่อนที่จะออกสื่อได้มีการพูดคุยกับทางผกก.สภ.เมืองนนทบุรีแล้ว แต่ทาง ผกก.จะให้ไปใช้สิทธิ์รักษาตัวเอาเอง และจะเยียวยา 20,000 บาท ซึ่งตนคิดว่าไม่เพียงพอและไม่ถูกต้อง จะมาตีค่าชีวิตคนด้วยเงิน 20,000 ไม่ได้
.
ทางด้านทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความดำเนินคดี แจ้งข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับดำเนินคดีแล้ว ตอนนี้ต้องทำหนังสือส่งตัวไปที่แพทย์นิติเวชตรวจเพิ่ม เพราะที่ตรวจครั้งก่อนลงว่าเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ดูตามคลิปแล้วไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ จึงต้องส่งตัวน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ลงความเห็นว่าใช่อุบัติเหตุหรือไม่ หรือเป็นการเกิดจากทำร้ายร่างกายจะดำเนินคดีแจ้งความข้อหาบุคคลในคลิป ในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ถ้าอาการสาหัสข้อหาก็จะหนักขึ้น
.
สำหรับกรณ๊ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลา 23.30 น. ขณะที่นายสหรัชพร้อมหลานชายวัย 23 ปี ที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญาประเภทที่5 กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลังมาซื้อลูกชิ้นสำหรับทอดขาย เมื่อขี่มาถึงหน้าปั้มน้ำมันบางจาก ถ. พิบูลสงคราม อ.เมืองนนทบุรี ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าขี่รถมาตีคู่และเรียกนายสหรัชและหลานให้ลงจากรถ
.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นตัวและรถจักรยานยนต์ รวมถึงขอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด นายสหรัชยินยอมให้ตรวจ แต่ได้บอกเจ้าหน้าที่ว่าอยากให้ตรวจของหลานชายพร้อมกับตน เพราะหลานเป็นผู้พิการทางสมอง พูดคุยไม่รู้เรื่อง แต่ตำรวจไม่ยอมและยืนรุมล้อมถามชื่อหลานถึง 3-4 คน ซึ่งหลานก็ตอบไม่ได้
.
สุดท้ายจากการตรวจค้นไม่พบของผิดกฎหมาย มีเพียงเรื่องไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ ซึ่งนายสหรัชเก็บแผ่นป้ายและเล่มทะเบียนไว้ใต้เบาะ กับเรื่องที่นายสหรัชไม่ได้พกบัตรประชาชนมา ในตอนแรกนายสหรัชคิดว่าตำรวจจะปล่อยตัวตนกับหลานแล้ว แต่กลับถูกล็อคตัว และตบหน้า จากนั้นตำรวจล็อคแขนและคอ กดตัวนายสหรัชกดลงกับพื้น จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 คนตะโกนบอกว่า แขนมันหักแล้ว ตำรวจทุกคนจึงหยุดและเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวนายสหรัชส่งโรงพยาบาล ปรากฎว่าแขนของนายสหรัชหัก 
.
หลังจากที่ออกจากรพ.ตำรวจก็พาไปที่สภ.เมืองนนทบุรีไปทำสำนวนว่านายสหรัชขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่  และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฏหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ คืนนั้นนายสหรัชนอนห้องขัง 1 คืน เช้าวันต่อมานายสหรัชก็ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อเสียค่าปรับ นายสหรัชบอกว่าตอนนี้รู้สึกแย่มากทำงานก็ไม่ได้เนื่องจากแขนเจ็บขายของลำบากแม่ก็ป่วยช่วยเหลือตัวเองก็ยังไม่ได้