นครบาล สั่งสอบกรณีปรากฏคลิปรถตำรวจนำขบวน VIP พร้อมยืนยัน เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาจราจรชั่วโมงเร่งด่วน

จากกรณีที่หญิงรายหนึ่งได้แชร์คลิปผ่านสังคมออนไลน์เป็นคลิปขบวนรถ VIP ขับย้อนศรสวนเลน โดยปรากฏมีรถจักรยานยนต์ตำรวจขับขี่นำขบวนอยู่ด้วย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับการกระทำของหญิงคนดังกล่าวที่ยืนยันจะไม่หลบให้กับขบวนรถดังกล่าวแต่อย่างใด

.
ล่าสุด วันนี้ (4 พฤศจิกายน) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากทางสถานีตำรวจนครบาล (สน.) มักกะสันแล้ว โดยจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณถนนกำแพงเพชร 7 ปกติจุดนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า 06.00-09.00 น. จะมีการจัดให้เดินรถทางเดียว ซึ่งทั้ง 2 ช่องทางจะออกมาที่บริเวณปากซอยเพชรอุทัย ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดทำให้ตำรวจจราจรท้องที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ระบายรถในจุดอื่น และเห็นว่าจุดดังกล่าวไม่ได้มีปัญหามาก จึงไม่มีตำรวจมาประจำจุดนั้น กระทั่งวันเกิดเหตุกลับมีปัญหาการจราจรในถนนกำแพงเพชร 7 ทางตำรวจจึงเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหา จัดระบบเป็นการเดินรถทางเดียว แต่ก็มามีปัญหาตามคลิปที่เผยแพร่ไปดังกล่าว
.
กรณีที่สังคมออนไลน์ระบุว่ารถที่นำมาดังกล่าวเป็นรถนำขบวนของ VIP นั้น เป็นรถตำรวจพื้นที่ข้างเคียง โดยเป็นรถของ สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็น สน. ข้างเคียงกับเจ้าของพื้นที่ สน.มักกะสัน โดยตำรวจพื้นที่เมื่อเห็นว่าจุดดังกล่าวมีการจราจรติดขัดอย่างหนัก จึงประสานให้ สน. พื้นที่ข้างเคียงเข้ามาช่วยอำนวยการการจราจร เพราะการจราจรติดยาวท้ายแถวไปถึงพื้นที่ สน.ทองหล่อ
.
อย่างไรก็ตาม ทาง บช.น. ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงมีการสั่งการให้ พ.ต.อ. ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล (ผกก.สน.) ทองหล่อ ทำการตรวจสอบที่มีการนำรถของสถานีมายังจุดดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ และให้ชี้แจงมาทาง บช.น. หากพบว่าทำไม่ถูกต้อง มีความผิดทางวินัย จะมีการดำเนินการโดยเคร่งครัด ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นบทเรียน จะได้มีการกำชับตำรวจทั่วไป ว่าหากมุ่งที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ประชาชนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ตลอดจนมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
.
ทั้งนี้ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ใช่เป็นการนำขบวน VIP แต่อย่างใด ที่สำคัญการนำขบวนต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ซึ่งจะมีระเบียบว่าบุคคลระดับใดบ้างที่สามารถจะมีรถนำได้ ซึ่งในกรณีนี้เป็นเพียงตำรวจจราจรพื้นที่และข้างเคียงที่มีเจตนารมณ์เดียวที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรในช่วงจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น