ปะทะเดือด! "ชูวิทย์" หวิดวางมวย "สันทนะ" หลังทั้งสองฝ่ายเข้าแ่จ้งความกันที่สน.ทองหล่อ

"ชูวิทย์" หวิดวางมวย "สันทนะ" หลังทั้งสองฝ่ายเข้าแ่จ้งความกันที่สน.ทองหล่อ

ปะทะเดือด!  "ชูวิทย์" หวิดวางมวย "สันทนะ" หลังทั้งสองฝ่ายเข้าแ่จ้งความกันที่สน.ทองหล่อ





ad1

10 พ.ย. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีน ที่ทำธุรกิจสีเทา ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ รวมไปถึงคดีอาญาเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนในหลายพื้นที่ และคดีพิพาทกันระหว่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้เปิดข้อมูลเกี่ยวกับนายทุนชาวจีนสีเทาในเมืองไทย กับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่ต่างฝ่ายต่างมาแจ้งความดำเนินคดีต่อกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจพบข้อมูลมีกลุ่มคนจีนทำธุรกิจสีเทาผิดกฎหมายในเมืองไทยทั้งหมด 5 กลุ่ม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนายเดวิด และหลูชางเฟย ส่วนอีก 3 กลุ่ม หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งตำรวจได้ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินลงพื้นที่ 15 จังหวัด 26 จุด จากเจ้าของรถที่สามารถยึดได้จากผับจินหลิน พบว่าเป็นของกลุ่มคนจีนที่สวมชื่อคนไทยเป็นเจ้าของทั้งหมด จากการปฏิบัติงานสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านบาท และอยู่ในระหว่างขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ การข่าวมีคนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจสีเทาหลบหนีออกนอกประเทศไม่ต่ำกว่า 100 ราย เพราะตำรวจกวาดล้างหนัก ส่วนการตรวจห้องพักในอาคารมหานคร เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งเชื่อมโยงแต่อย่างใด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า วันจันทร์ที่จะถึงนี้จะเป็นการแถลงข่าวเพื่อสรุปคดีดังกล่าว รวมถึงกลุ่มคนไทยที่ให้การสนับสนุนกลุ่มคนจีนแอบลักลอบทำธุรกิจสีเทาให้ประชาชนได้ทราบกัน หลังเป็นกระแสข่าวที่น่าใจ ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีนักการเมืองระดับประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องในคดี เบื้องต้นไม่พบข้อมูลดังกล่าว และยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม

ส่วนความคืบหน้าคดีอุ้มเรียกค่าไถ่คนจีน โดนตัดนิ้วที่พัทยา จ.ชลบุรี ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย เหลือ 1 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดร่วมหรือไม่

นอกจากนี้คดียาเสพติดที่ตรวจพบที่ผับจินหลิน ในพื้นที่ สน.ยานนาวา ล่าสุดตำรวจฝ่ายสืบสวนตรวจพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 4 ราย ตั้งแต่ผู้นำเข้าและนำมาจำหน่ายที่ผับจินหลิน ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม

ส่วนผับ TOP ONE ย่านสุทธิสาร ผับ SP ย่านทองหล่อ และผับจินหลิง ย่านยานนาวา จากการตรวจสอบพบว่าผับ 3 แห่งดังกล่าวมีความเชื่อมโยงมีเครือข่ายเดียวกัน และมีคนไทยเป็นนอมินีให้การช่วยเหลือในการเปิดธุรกิจ

ต่อมาเวลา 18.00 น. นาย "ชูวิทย์" ได้นำเอกสารหลักฐาน มามอบให้ "บิ๊กโจ๊ก" เพื่อทำการตรวจสอบพฤติกรรมของ "สันธนะ" ว่า มีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มทุนจีนที่กันมากระทำผิดกฎหมายในเมืองไทยหรือไม่ อย่างไร"ชูวิทย์" กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าตนทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี เพื่อเปิดเรื่องนึ้ให้สังคมไทยได้เห็นว่ากลุ่มทุนจีนดังกล่าวมีความอันตรายอย่างไร ตนได้พูดเรื่องนี้มานานหลายเดือนแล้ว กระทั่งมาพูดถึงกลุ่ม 5 เสือจีน ที่ถูกจับกุมไป 2 คน เหลือ 3 คนที่ยังหลบหนี ถ้า 5 คนนี้บริสุทธิ์จริงจะหลบหนีทำไม ไม่จำเป็นต้องหลบหนี จะซื้อรถอะไรก็ซื้อได้ไม่ต้องใส่ชื่อคนอื่นมาสวม

ที่ผ่านมาตนไม่เคยเอ่ยชื่อ "สันธนะ" แม้แต่คำเดียว จู่ ๆ นายสันธนะ ก็โผล่มาที่โรงแรมตนแล้วก็ถ่ายคลิป ว่ามีการจัดการมั่วสุมในโรงแรมตน ตนเป็นผู้ใหญ่อายุ  60 ปีแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะ โรงแรมตนเป็นระดับ 5 ดาว ก็ต้องต้อนรับ แม้ตำรวจจะมีการปิดกั้นพื้นที่ทำให้เกิดความเสียหายแต่ตนยินยอมแต่โดยดี แต่นายสันธนะกลับมีพฤติกรรมที่ประหลาดมาด่าว่า พลเมืองดีอย่างตน เห็นควรที่ทางรอง ผบ.ตร. ควรจะปกป้องตนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชูวิทย์ กำลังยื่นเอกสารหลักฐานดังกล่าว นายสันธนะ ได้ปรากฏตัวขึ้น ที่บริเวณประตูห้องประชุมชั้น 3 ของ สน.ทองหล่อ ที่ใช้เป็นห้องที่ใช้สำหรับการประชุมในวันนี้โดยนายสันธนะ ได้ร้องโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้องใช้มือทุบประตูเพื่อจะเข้ามาภายในห้อง ทำให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องสั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ เชิญตัวนายสันธนะไปที่ห้องทำงาน ผกก.ที่ชั้น 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน  ซึ่งนายสันทนะพยายามเคาะประตูและตะโกนว่าตนอยู่นี่

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พยายามออกมาปกป้องและอ้างว่ากลุ่ม 5 เสือชาวจีนทำธุรกิจบริสุทธิ์ อีกทั้งยังไปพูดออกรายการหนึ่งว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า บอกให้ดูแลกลุ่มนายทุนจีนกลุ่มนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว รวมถึงกรณีที่นายสันธนะบุกไปถึงโรงแรมของตนและทำให้ชื่อเสียงของโรงแรมของตนเสื่อมเสียชื่อเสียง และดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทฯ

หลังจากนายชูวิทย์ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเสร็จแล้ว ตำรวจกันนายชูวิทย์ลงมาด้านล่างสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นนายชูวิทย์ตะโกนท้าทายนายสันธนะ ซึ่งนั่งสนทนากับผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลทองหล่ออยู่ภายในห้อง ก่อนนายสันธนะจะเดินลงมาแล้วทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากัน จากนั้นมีการปะทะคารมกันเกิดขึ้น

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกันทั้งคู่ออกห่างจากกัน ก่อนที่นายชูวิทย์จะปลดกระดุมข้อมือเสื้อเชิ้ตและถอดเนกไทออก ก่อนประกาศว่าเข้ามาเลย พร้อมจะเจอทุกเมื่อและตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างนายชูวิทย์และนายสันธนะ

นายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่อว่านายสันธนะ และตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงออกมาปกป้องนายทุนจีนสีเทาและเชื่อมโยงไปทั้งพฤติกรรมที่เข้าไปตรวจสอบภายในโรงแรมของตน รวมถึงให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยอ้างถึงอดีต รมช.เกษตรฯ ว่าฝากให้ช่วยดูแลนายทุนจีนดังกล่าว

ขณะที่นายสันธนะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า ที่เดินทางมา สน.ทองหล่อ วันนี้เพื่อแจ้งความนายชูวิทย์ ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีนายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พร้อมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวถึงตนโดยเรียกว่าสันขวาน สอดคล้องกับเหตุการในวันนี้ที่นายชูวิทย์ตะโกนว่าตนในคำเดียวกัน แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ดำเนินคดี ขอรวบรวมรายละเอียดก่อน ในวันนี้ขอใช้สิทธิของตน เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบผับในโรงเเรมเดวิด

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการปะทะคารมกันเล็กน้อย ไม่เข้าถึงเนื้อถึงตัว โดยมีตำรวจพยายามกันทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ก่อนทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันไป