หลวงปู่เกจิดังอ้างฉี่-ขี้-เลือดเป็นพระธาตุ พฤติกรรมชอบกอดลูกศิษย์สาว

วันนี้ 11 พ.ค.65 หมอปลา และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บุกเข้าตรวจสอบพฤติกรรมหลวงปู่ชื่อดังวัดป่าแห่งหนึ่งใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร หลังมีหญิงสาวรายหนึ่งส่งคลิปเรียกร้องให้ตรวจสอบ เนื่องจากถูกพระเกจิระดับเจ้าอาวาส จับหน้าอก อ้างทำเพื่อรักษามะเร็ง นอกจากนี้ยังมีการกล่าวอ้างว่า ฉี่ - ขี้ - เลือดเป็นพระธาตุ  
.
เมื่อหมอปลาและทีมข่าวบุกไปที่วัด พยายามให้หลวงปู่แสงชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีหญิงสาวเข้ามาร้องเรียนหลังถูกลวนลาม เมื่อไปถึงก็เห็นสภาพว่าหลวงปู่แสง อยู่ในสภาพอ่อนแรงและชรา เพราะมีอายุมากถึง 96 พรรษา ไม่สามารถพูดคุยเป็นประโยคได้ แต่พอรู้ว่าทีมข่าวและหมอปลา เข้ามาสอบถามเรื่องอื้อฉาว หลวงปู่แสง ก็ปัดไมค์ผู้สื่อข่าว แล้วพยายามขับไล่ ด้วยการปาเหรียญบูชาของตัวเองใส่ พร้อมกับกระซิบบอกพระเลขาที่อยู่ด้านข้างว่าช่วยไล่คนบ้าพวกนี้ออกไปที
.
ส่วนพระเลขาของหลวงปู่แสงที่นั่งอยู่ข้างๆทำหน้าที่คอยตอบคำถามแทน และพยายามปกป้องหลวงปู่แสงว่า ไม่เคยมีพฤติกรรมลวนลามผู้หญิง ก่อนที่ต่อมาจยอมรับว่า หลวงปู่แสง เคยแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงจริง แต่กระทำไปโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากตัวหลวงปู่นั้นป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ อาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อตนเองเห็นก็ไม่รู้จะห้ามยังไง แต่ยืนยันว่าสุภาพสตรีทุกท่านที่มากราบไหว้หลวงปู่ล้วนแต่ยินยอมที่จะให้หลวงปู่แตะต้องสัมผัสตัวทุกคน ซึ่งก่อนเข้ามาทั้งแม่ชีและพระก็แจ้งให้ทราบก่อนแล้ว 
.
นอกจากนี้เคยมีผู้หญิงรายหนึ่งมารักษาโรคมะเร็งเต้านม หลวงปู่แสงได้ใช้มือสัมผัสไปที่หน้าอกของหญิงรายนั้นเพียงครั้งเดียว จึงทำให้โรคมะเร็งเต้านมของหญิงรายนั้นหายขาดไปในพริบตา ซึ่งการที่หลวงปู่สัมผัสผู้หญิง ชี้ว่าตนเองและทุกๆคนเป็นแค่ปุถุชนไม่มีใครหยั่งรู้ถึงศาสตร์เบื้องลึกของการรักษา เพราะหลวงปู่แสงบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว และยืนยันว่าการที่หลวงปู่แตะตัวผู้หญิง ไม่ผิดพระธรรมวินัย หากสีกาคนไหน ไม่พอใจ ต่อไปก็ไม่ต้องมาวัดนี้ 
.
ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายมาร้องเรียนหมอปลา หากมีหลักฐานยืนยันจริง ก็ให้นำหลักฐานไปดำเนินคดีตามกฎหมาย  
.
ล่าสุดจากการตรวจสอบพฤติกรรมหลวงปู่รูปนี้ ทางนายสิทธิลักษณ์ จิตอาคณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร ระบุว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเรื่องการแตะตัวหญิงสาว และอาจเข้าข่ายอวดอุตริ เรื่องธาตุขันธ์ในร่างกาย หลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยังเจ้าคณะปกครองสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติ พิจารณาดำเนินการตามพระวินัย
.
สำหรับการตรวจสอบพื้นที่ของวัดพบว่า เป็นที่พักสงฆ์ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตป่าถาวรป่าโคกนาโก อยู่ระหว่างการขออนุญาตใช้พื้นที่และขึ้นทะเบียนเป็นวัด ซึ้งพบไม้มีค่าในพื้นที่จำนวนมากและมีการแปรรูปด้วย โดยในวันพรุ่งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมลงพื้นที่ขยายผล เพื่อดำเนินการตรวจสอบด้านอื่นๆต่อไป