ทุกภาคส่วนยื่นมือช่วยครอบครัวชีวิตสุดรันทดอยุธยา

ทุกภาคส่วนยื่นมือช่วยครอบครัวชีวิตสุดรันทดอยุธยา





ad1

พระนครศรีอยุธยา-หลายหน่วยงานเริ่มเข้าช่วยเหลือ ครอบครัวชีวิตสุดรันทด....ที่ ม.3 ต.บ่อตาโล่  อ.วังน้อย ซึ่งเก็บผักบุ้ง หาหอยโข่ง  เร่ขายแลกข้าวกินประทังชีวิต   ขณะที่หนึ่งในผู้นำครอบครัวที่ถูกรถชน  จนแทบจะพิการ ทางตำรวจ สภ.วังน้อย  ยืนยันอยู่ระหว่างการทำสำนวนสอบสวน และผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อหาแล้ว แต่ยังไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ผู้บาดเจ็บร้องขอ

เวลา 11.00 น. วันที่ 4 ก.พ. 65 นายสุเทพ คำโต ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอวังน้อย  จ.พระนครศรีอยุธยา  , อาสา 904 พร้อมด้วยนายเผอิญ ไทยสม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์โทรทัศน์พระนครศรีอยุธยา และ เพจข่าว “ ทันอยุธยา ”  

เข้าไปช่วยเหลือ ครอบครัว 5 ชีวิตสุดรันทด....ที่ ม.3 ต.บ่อตาโล่  อ.วังน้อย ซึ่งเก็บผักบุ้ง หาหอยโข่ง  เร่ขายแลกข้าวกินประทังชีวิต  อีกทั้งยังประสบปัญหาเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ถูกรถชนแขนขาหัก คดีไม่คืบ  ไร้ซึ่งการเยียวยาอย่างเป็นธรรม

โดยได้มีการนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ ที่ประสานงานได้จากผู้ใจบุญ เช่น กิ่งกาชาดอำเภอวังน้อย โรงไฟฟ้าวังน้อย  ปตท.วังน้อย และอีกหน่วยงาน เข้าไปช่วยเหลือ 

นางศศิธร พงษ์จินดา  อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัวผู้อาภัพ  เปิดเผยว่า บ้านของตนเองเป็นกระท่อมปลูกง่าย  ๆ ในที่ดินริมคลองชลประทาน  สภาพแทบจะพัง เพราะปลูกจากวัสดุเศษไม้และสังกะสี ก่อนหน้านี้ ตนเองและสามี คือนายสมบัติ ศรีสมภาร รับจ้างทั่วไป มีลูกกัน 3 คน  และมีแม่อีก 1 คน ปลูกกระท่อมอยู่คิดๆกัน รวมเป็น 5 ชีวิต บวกแม่อีก 1 คน เท่ากับ 6 คน ฐานะยากจนมาก

เมื่อ 2 เดือนก่อนถูกระกระบะส่งของชนบนถนน จนทำให้แขนและขาซ้ายหัก ต้องผ่าตัดใส่เหล็กที่ขาซ้าย กรูกสะโพกทรุด ตอนนี้ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ลุกยืน หรือ คลาน ขยับเคลื่อนร่างกายไปเข้าห้องน้ำไม่ได้เลย คล้ายคนพิการติดเตียง 

โดย นายสมบัติ ศรีสมภาร ซึ่งเป็นสามี  ก็เปลี่ยนมาเก็บผัก หาหอย หาปลา มาให้ตนเองและแม่ที่แก่ชรา ช่วยมัดกำผักบุ้ง แกะหอย ให้สามารถและลูกนำไปจายที่ตลาดนัด พอมีเงินแลกข้าวกินประทังชีวิต

ส่วนเรื่องคดีรถชน เชื่อว่าไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรมจากคู่กรณี

ทั้งนี้ทาง ตร.สภ.วังน้อย ได้เข้ามาเยี่ยมที่บ้านพัก และให้คำปรึกษาทางคดีต่อหน้ากลุ่มผู้สื่อข่าว  ผลทางคดีล่าสุด  พบว่า มีการทำสำนวนการสอบสวนแต่แรกแล้ว และมีการเก็บหลักฐานและสอบปากผู้เกี่ยวข้องแล้ว โดยถึงวันนี้ พบว่า คู่กรณีได้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และอยู่ระหว่างให้คู่กรณีเจรจาตกลงค่าเสียหาย  

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ ในการรักษาพยาบาล ใช้สิทธิ์ประกัน พรบ.รถยนต์  การช่วยเหลือ จากคู่กรณี จ่ายขณะรักษาพยาบาลไปแล้ว 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9,000 บาท แยกเป็น วันที่เข้า รพ.2,000 บาท  ขณะรักษาตัว 2,000 บาท และ ช่วงออกจาก รพ.5,000 บาท

   

แต่ผู้บาดเจ็บเรียกร้องเงินเยียวยาเพียง 40,000 บาทเท่านั้น  คู่กรณีไม่ยอมจ่าย ขอจ่ายรวมที่ 9,000 บาท คือจำนวนที่เคยจ่ายไป และแจ้งว่าหากอยากได้เพิ่มกว่านี้   ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ครอบครัวนี้ ต้องการมากที่สุด คือ 1. อาหาร เพราะว่า แทบจะไม่มีรายได้อะไร และ ยังมีสมาชิกในบ้านที่ต้องกินถึง 6 ชีวิต คือ สองสามีภรรยา ลูกอีก 3 คน และ แม่ที่ปลูกกระท่อมติดกันอีก 1 คน รวมถึงอยากได้ แพมเพิสสำหรับคนพิการ ขาดไซด์ L เพราะเป็นของจำเป็นแต่ราคาแพง

ส่วนเรื่องบ้านที่พอจะคุ้มแดดฝนได้นั้น หากได้หรือมีการปรับปรุงของเก่า  ก็จะเป็นที่ปลอดภัยให้แก่ลูก ๆ 

สำหรับ....การเดินทางเข้าช่วยเหลือ สามารถติดต่อ นายอำนวยศิล ปัจฉาพิมพ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.บ่อตาโล่  หมายเลขเบอร์โทร.   0924876849

นายสมบัติ ศรีสมภาร  ผู้เป็นสามี  เบอร์โทร 061-5437625


ส่วนบัญชีของนางศศิธร พงษ์จินดา  ผู้บาดเจ็บ...ชื่อบัญชี  น.ส.ศศิธร พงษ์จินดา  ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค  เลขที่บัญชี 391-0-69758-5

#ทันอยุธยา
สนับสนุนข่าวโดย..#theecoresidence
และ #บ้านเทพธิพงษ์
โครงการหมู่บ้านจัดสรร..เดอะอีโค่ https://www.facebook.com/221085571408174/posts/1960261627490551/