สภาล่มอีก! ฝ่ายค้านยื่นเสนอญัตติด่วน ปมหาทางออกการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ซัดกันน้ำลายท่วมสภา! สุดท้ายองค์ประชุมไม่ครบ สั่งปิดประชุม

11 ส.ค. 2565  เมื่อเวลา ที่รัฐสภา  ช่วง 14.00 น.ที่ผ่านมา นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2.3 เรื่องรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563  นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นหารือเพื่อขอเปลี่ยนวาระการประชุม โดยขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาของ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่อง ความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี

โดยนายสุทิน ได้ลุกขึ้นมากล่าวว่า ประเด็นที่ตนเสนอวันนี้คือให้สภาฯระดมความเห็นเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.ก.กลาโหม ให้ถูกต้องตามมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ว่า การดำรงตำแหน่งของนายกฯ ได้ไม่เกิน 8 ปี ซึ่งถือเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมกำลังจับตา ว่าเรื่องนี้จะมีทางออกอย่างไร เพราะมีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งตนเกรงว่าอาจจะเกิดปะทะกันทางความคิด สภาฯไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะ สภาฯ เป็นผู้ตั้งนายกฯ ควรต้องมีการระดมความเห็นเพื่อแนะนำนายกฯ ให้ทำตามรัฐธรรมนูญ

ด้านนายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. ในฐานะวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นมาโต้ว่า การท่ี่จะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา จะต้องหารือกันก่อน ตนคิดว่าท่านพยายามจะใช้สภาฯ เป็นเครื่องมืดกดดันผู้มีอำนาจในการตัดสินวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีหรือไม่  ทั้งที่สภาฯ ไม่ได้มีอำนาจ แต่เป็นศาลที่จะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และให้นำเรื่องที่ตกลงกันไว้ขึ้นมาพิจารณา 

นายสุทิน ได้โต้ว่า ตนยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าการตีความ มาตรา 158 เป็นเรื่องด่วนที่สภาฯ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม หากปล่อยไป สังคมอาจเดินไปสู่ทางตัน

สภาฯ ได้มีสมาชิกลุกขึ้นมาตอบโต้กันเดือดหลายท่าน ทั้งนี้ฝ่ายรัฐบาล นายรงค์ บุญสวยขวัญ สส.นครศรีธรรมราช พรรคพปชร. ได้ลุกขึ้นมาค้านการเสนอญัตติด่วนทางวาจาและขอให้ประธานดำเนินการประชุมตามวาระ  ซึ่งได้รับการคัดค้านต่อเนื่องจากนายสุทินและนายรังสิมันต์

ในท้ายที่สุด นายศุภชัย ประธานในที่ประชุม ขอให้ที่ประชุมลงมติญัตติด่วนของฝ่ายค้าน แต่เมือถึงเวลาการแสดงตนก่อนลงมติ ปรากฎว่ามีการแสดงตนเพียง 124 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 239 คน จากสส.ที่ทำหน้าที่ทั้งสิ้น 478 คน ส่งผลให้องค์ประชุมไม่ครบ นายศุภชัย จึงได้สั่งปิดประชุมในเวลา 15.06 น.