BRN จี้รัฐไทยพิจารณามาตรการลงโทษผู้ก่อเหตุปมตร.ทำร้ายปชช.

BRN จี้รัฐไทยพิจารณามาตรการลงโทษผู้ก่อเหตุปมตร.ทำร้ายปชช.





ad1

BRN จี้รัฐไทยพิจารณามาตรการลงโทษผู้ก่อเหตุและผู้บังคับบัญชาที่ให้ความช่วยเหลือผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน กรณีตำรวจพลร่มก่อเหตุบังคับสตรีมุสลิมบังนังสตาในระหว่างขับขี่รถยนต์ไปทำงานที่ว่าการอำเภอ

จากกรณีโซเชียลมีเดียแชร์ข้อมูลข่าวสาร "ตำรวจพลร่มฉลองชัย บันนังสตา ชั่วดักจี้สาวอิสลาม ขอเงินและหวังลากข่มขืนในค่าย"นั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เจริญ อุปวรรณะ รอง.หน.ทก.รพศ. ร.ต.อ.ชรินทร์ ภู่จิตรทอง รอง.หน.ชป.2(ฐานบุญลือ) พร้อมกำลังพล รวม 4 นาย  ตบเท้าลงพื้นที่ โดยมี นายสุชาติ ก้งเส็ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านฉลองชัย และนางหลี่ พรหมทอง(ราษฎรอาวุโส)ร่วมพูดคุยทำความเข้าใจ กับผู้เสียหาย น.ส.ชนิตา โต๊ะเก ชื่อเล่น ปุ้ย อายุ 37 ปี(ผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นพนักงานลูกจ้างงานทะเบียน อ.บันนังสตา ที่อยู่ 325 หมู่ที่ 4 บ้านฉลองชัยต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมนายอนุวัต ฮีดโต อายุ 25 ปี ผู้เป็นสามี  ได้มีการพูดคุยในกรณี ส.ต.ต.โชคอนันต์ เหง้าละคร อายุ 22 ปี ที่อยู่ 10 หมู่ที่ 1 ต.อากาศอำนวย อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก. 1 บก.สอ.(กพ.ชป.2)ฐานปฏิบัติการณ์บุญลือ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บังนังสตา ที่ได้ก่อเหตุตามที่มีการแพร่ข่าวทางโลกโซเซียลสื่อออนไลน์ โจมตีใส่ร้ายกำลังพล และหน่วย ทก.รพศ.(ตำรวจพลร่ม)ว่าเป็นกองกำลังติดอาวุธปฏิบัติภารกิจในพื้นที่สร้างเงื่อนไข ทำให้พี่น้องประชาชนหวาดกลัวนั้น 

ซึ่งจากการเข้าพบพูดคุยกับผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้พยายามมีการปรับทำความเข้าใจให้กับทั้งสองฝ่าย โดยได้ลำดับเหตุการณ์จากผู้เสียหายดังนี้

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.64 ที่ผ่านมา เวลา 08.20 น. ขณะที่ผู้เสียหายขับรถยนต์เก๋งส่วนตัว ออกจากบ้านนิคมฉลองชัย เพื่อไปทำงานที่ อ.บันนังสตา ตามปกติ  โดยจะผ่าน”ฐานปฏิบัติกาณ์บุญลือ”เป็นประจำ  เมื่อผ่านฐานฯได้ระยะห่างประมาณประมาณ 250 เมตร ได้มี ส.ต.ต.โชคอนันต์ เหง้าละคร ได้ให้สัญญาณจอดรถ ผู้เสียหานก็ได้จอดรถ เมื่อผู้เสียหายลดกระจกลง ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาถามว่า “พี่ผมขอฝากส่งพัสดุที่บันนังสตาได้ไหมครับ ผู้เสียหายดูเวลาเห็นว่าสายมากแล้ว จึงตอบปฏิเสธว่า สายมากแล้วน้องหาฝากทางอื่นดีกว่าไหม ห้วงเวลานั้นเองผู้ก่อเหตุ ถือวิสาสะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเบาะด้านข้าง และพูดว่าพี่ขอโทษครับผมต้องการใช้เงิน 10,000 บาท พี่โอนเงินมาในโทรศัพท์เลขบัญชีผมตอนนี้เลย”ทำให้นางเริ่มรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยแล้ว ขณะเดียวกันก็มีรถยนต์เก๋งสีขาวขับมาพอดี ผู้เสียหายจำได้ว่านั้นเป็นรถของครูที่สอนโรงเรียนบ้านสันติ 1  จึงรีบเปิดประตูรถโบกมือพร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ ครูก็รีบจอดรถแล้วเดินเข้าไปสอบถามเพื่อให้ความช่วยเหลือ จากนั้นผู้ก่อเหตุตกใจรีบออกจากรถของผู้เสียหายแล้ววิ่งหนีไป

ผู้เสียหายยังเล่าอีกว่า” ผู้ก่อเหตุ ซึ่งคุ้นเคยกันจากภารกิจของหน่วยกับชุมชน และการแข่งขันกีฬาในยุทธการที่ผ่านมา “
หลังจากนั้นผู้เสียหายกลับรถ เพื่อเดินทางกลับบ้านแล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้สามีฟัง และไปแจ้ง ผู้ใหญ่บ้านรับทราบ ก่อนที่ทั้งคู่(สามีภรรยา)ได้เดินทางไปแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ชป.2 (ฐานบุญลือ)โดยมี ร.ต.อ.ชรินทร์ ภู่จิตรทอง รอง.หน.รรท.หน.ชป.2 รับทราบข้อมูลเบื้องต้น หลังจากนั้นได้นำตัว ส.ต.ต.โชคอนันต์ เหง้าละคร มาขอขมาและขอโทษ แต่ทางผู้เสียหายและสามียังไม่ยอม จึงขอให้ไปทำการ”บันทึกข้อตกลง” พูดคุยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเสียก่อน
 ผลการเจรจาคือผู้เสียหายจะไม่แจ้งความเอาผิดใดๆ ต่อผู้ก่อเหตุ แต่ผู้เสียหายยังมีความหวาดระแวงต่อการกระทำดังกล่าว จึงขอให้ ชป.2(ตำรวจพลร่ม)นำผู้ก่อเหตุออกนอกพื้นที่โดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกันในเคริอข่ายเพคBRN Barisan Revolusi National คู่เจรจาพูดคุยสันติสูข สันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ใต้กับรัฐไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเพจเครือข่ายในกรณีดังกล่าวนี้ และยังเรียกร้องขอให้ทางรัฐไทยพิจารณามาตรการในการลงโทษผู้ก่อเหตุและผู้บังคับบัญชาที่ให้ความช่วยเหลือผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน โดยมีเนื้อหาดังนี้

จากที่มีข่าวตามหน้าสื่อโซเซี่ยลในพื้นที่ปาตานี โดยที่หน่วยงานความมั่นคงที่เป็นข่าวคือ กองกำลังตำรวจรบพิเศษ(กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดน ขึ้นอยู่กับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน)ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านสันติ 1 กองร้อยเฉพาะกิจรบพิเศษ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา

โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 18 พ.ย.64 เวลา 08.15 น. เป็นเหตุให้หญิงสาวผู้เสียหายที่กำลังเดินทางโดยรถยนต์เพื่อไปทำงานที่ที่ว่าการอำเภอบันนังสตา ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีอาการขวัญเสียจากเหตุที่นายตำรวจรบพิเศษก่อเหตุอุกอาจด้วยการสกัดรถระหว่างทาง เพื่อขู่กรรโชกทรัพย์และหวังข่มขืนหญิงสาวรายดังกล่าว

แต่เนื่องจากมีผู้พบเห็นเหตุการณ์และเข้าให้ความช่วยเหลือทำให้หญิงสาวรายดังกล่าวรอดพ้นจากเงื้อมมือตำรวจไม่หวังดีนายดังกล่าวได้ซึ่งหลังจากก่อเหตุ ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการปฏิเสธทางอ้อม โดยมีการอ้างเหตุผลว่าตำรวจผู้ก่อเหตุมีสติไม่สมประกอบล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจหน่วยดังกล่าวทางมีการข่มขู่พยานและพยายามพูดคุยกับครอบครัวผู้ก่อเหตุโดยมีการเสนอการชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายแล้ว ขอให้ประชาชนทุกท่านต้องติดตามข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ BRN เห็นว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิและเป็นการคุกคามทางเพศที่ไม่น่าให้อภัยโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ปกป้องประชาชน แต่กลับเป็นผู้ก่อเหตุเสียเองจึงขอให้ทางรัฐไทยพิจารณามาตรการในการลงโทษผู้ก่อเหตุและผู้บังคับบัญชาที่ให้ความช่วยเหลือผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน