ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ติดตามจับกุมเยาวชนอายุ 14 ปี อัพเกรดจากผู้เสพเป็นพ่อค้ายาซะเอง

ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ติดตามจับกุมเยาวชนอายุ 14 ปี ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่หาเงินอัพเลเวลจากผู้เสพเป็นผู้ค้า ครั้งล่าสุดเข้าไปเปิดรถยนต์เหยื่อขโมยเอาสร้อยข้อมือทองคำไปขายหาเงินซื้อยาบ้า ก่อนถูกรวบกลางทุ่งนาพร้อมของกลางยาบ้า 243 เม็ด

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 24 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่คลิปการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุลักสร้อยข้อมือทองคำผู้เสียหายในพื้นที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ภายในรถยนต์ไป 1 เส้น ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา พร้อมตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 243 เม็ด โดยตำรวจติดตามจับกุมได้ที่

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบกับ พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสงค์ ผกก.สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น  พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม ด.ช.เจลลี่(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี  ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน   นำตัวส่ง พ.ต.ท.สุดใจ กงทอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น รับตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ( ด.ช.ธนภัทร ทิพย์โยธา หรือเจลลี่ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่  43/1  ม.5 บ้านโคกสี ต.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น)

พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสงค์ ผกก.สภ.บ้านฝาง  กล่าวว่า  การจับกุม ด.ช.เจลลี่ เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค ที่ผ่านมา  ได้มีนายเจษฎา โพธิ์ไหม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 บ้านโคกสี ม.5 ต.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.บ้านฝาง ว่า ได้จอดรถยนต์ไว้หน้าบ้านแล้วลืมล็อครถ ได้เข้าบ้านไปอาบน้ำ เพื่อจะไปทำธุระต่อ   โดยได้ถอดสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท และเงินสด 4,000บาท ไว้ในรถ  เมื่อแต่งตัวเสร็จจะออกไปทำธุระมาขึ้นรถพบว่าในรถมีร่องรอยการถูกรื้อค้น ทองและเงินสดหายไป  สอบถามชาวบ้าน จึงทราบว่า มี ด.ช.เจลลี่ มาเดินอยู่ข้างรถ จึงเชื่อว่า ด.ช.เจลลี่จะเป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์ไป ขอให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวให้ด้วย

"ในการเข้าแจ้งความนั้น ผู้เสียหายนำรูปถ่ายทองและภาพถ่ายร่องรอยการรื้อค้นในรถมามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย ต่อมาวันที่ 16 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบจากร้านทองที่อยู่ในตลาดบ้านฝางว่า มีเด็กผู้ชาย นำสร้อยข้อมือน้ำหนัก 1 บาท มาและเปลี่ยนเป็นสร้อยคอหนัก 2 สลึง แหวนหนัก 1 สลึง ส่วนที่เหลือขอเป็นเงินสด 4,000บาท ทางร้านทองมีภาพจากวงจรปิด และมอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐาน"

ผกก.สภ.บ้านฝาง กล่าวต่ออีกว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบที่ร้านทอง พบว่าสร้อยข้อมือที่ ด.ช.เจลลี่ นำมาแลกทองจากทางร้าน ตรงกับสร้อยข้อมือของผู้เสียหายที่แจ้งความไว้  จึงออกติดตามจับกุม ด.ชเจลลี่ มาอย่างต่อเนื่อง  แต่ทราบว่า ด.ช.เจลลี่ หลบหนีออกจากหมู่บ้านไปแล้ว  นอกจากนี้ยังทราบจากชาวบ้านว่า ด.ช.เจลลี่ก่อเหตุลักทรัพย์ของชาวบ้านมาหลายครั้ง  ชาวบ้านแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ว่ากล่าวตักเตือน แต่ไม่เข็ดหลาบ ยังมีการก่อเหตุซ้ำอีก  ทั้งยังทราบว่า ด.ช.รายนี้ พ่อแม่ แยกทางกัน อาศัยอยู่กับยายที่แก่ชราแล้ว รับจ้างหาเลี้ยงหลานมาโดยตลอด ส่วนการสืบสวนจับกุมในคดีที่ ด.ช.ลักทรัพย์ทรัพย์สร้อยข้อมือทองคำและเงินสดในครั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า ด.ช.เจลลี่ได้เช่ารีสอร์ทในพื้นที่เขตติดต่ออ.เมืองขอนแก่น กับอ.บ้านฝาง พักอาศัย 1 คืน เมื่อเงินหมดก็นำทองไปขายในร้านทองพื้นที่ตำบลบ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น และอาศัยหลับนอนตามกระท่อมนาของชาวบ้าน

"เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ยายของด.ช.เจลลี่ไปรับจ้างเกี่ยวข้าวในพื้นที่บ้านหนองแวง ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของคนที่เข้าออกในที่นาแปลงดังกล่าว  กระทั่งพบ ด.ช.เจลลี่ไปหายาย จึงเข้าจับกุมตัว  และจากการตรวจค้นในตัวพบยาบ้า 243 เม็ดในกระเป๋ากางเกงที่สวมใส่อยู่  จึงควบคุมตัวไปสอบสวน จากการสอบสวนในเบื้องต้น ด.ช.เจลลี่ ยอมรับสารภาพว่า ทำการลักเอาสร้อยข้อมือทองคำพร้อมและเงินสดในรถยนต์ของผู้เสียหายจริง และนำสร้อยข้อมือไปแลกเป็นสร้อยคอและแหวนทอง พร้อมรับเงินสดจริง  นำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้ามาเสพ มาขาย จากหลักสิบเม็ดเป็นร้อยเม็ด  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง ซึ่งก็รับสารภาพว่า ขณะหลบหนีตำรวจ ได้เสพยาบ้าทุกวัน กระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาและเตรียมส่งฝากขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่นต่อไป"